นิทานเรื่อง
:
หนูน้อยหมวกแดง
นานมาแล้วที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง
มีหม่าม๊าหมวยและลูกชายตัวโน้ยหน้าตาน่าเอ็นดูจิ้มลิ้มมุ้งมิ้งมากคนหนึ่งชื่อคชา
หรือที่ใคร ๆ
ต่างก็จะเรียกเจ้าหนูกันจนติดปากว่า.....
“หนูน้อยหมวกแดง”
ที่เป็นเช่นนั้นก็เนื่องมาจากด้วยเจ้าหนูมักที่จะใส่ฮู้ดที่เป็นแบบเสื้อคลุมติดกันสีแดงสด
ซึ่งเสื้อฮูดนี้
ยายแมกซ์(ผู้ที่เอะอะก็เดินเข้าป่าเป็นประจำ)ซื้อให้เป็นของขวัญ
วันไหนที่แดดดี อากาศร้อนเปรี้ยง42◦c
เจ้าหนูก็มักจะหยิบออกมาใส่อยู่เสมอนั่นเอง
หนูน้อยคนนี้เป็นเด็กน่ารัก
จิตใจดี(เป็นบางครั้ง)
มีเมตตาต่อเพื่อน
ๆ และสัตว์ทั้งหลาย(ยกเว้นต่อฝูงฮิปโป)
ดังนั้นเจ้าหนูจึงเป็นที่รักยิ่งของทุกคน
อยู่มาวันหนึ่ง
หม่าม๊าหมวยปลุกหนูน้อยที่ยังงัวเงียฝันหวานตื่นขึ้นมาแต่เช้าให้ไปอาบน้ำแต่งตัวด้วยเสื้อเชิ๊ตกลัดกระดุมสีขาวและกางเกงขาสั้นเนื้อนุ่มแสนสบาย
พอคชาดูจะตื่นเต็มที่แล้วหม่าม๊าจึงสั่งว่า
“วันนี้ลูกต้องเอาอาหารนี่ไปให้คุณยายที่กำลังนอนป่วยอยู่นะจ๊ะ”
หม่าม๊าคนสวยยื่นตะกร้าที่บรรจุอาหารคาวหวานสารพัด
มีทั้งลาบก้อย ข้าวเหนียวและเหล้ายาดอง
กับเครื่องเคียงต่างๆให้คชา
“ครับ
หม่าม๊า”
คชาเด็กดีตอบรับพลางฉวยตระกร้าจากมือของแม่
แล้วทำท่าจะลุกเดินจากไป
โดยมีแม่ร้องสำทับขึ้นตามหลังว่า
“อย่าเถลไถลและแวะเล่นที่ไหนด้วยนะจ๊ะลูก
เพราะคุณยายกำลังรออยู่
แล้วอีกอย่างหนึ่งลูกอย่ากลับบ้านมืดค่ำด้วย
อันตราย ได้ยินไหม?”
คชารับคำอีกครั้ง
“จ้า
รู้แล้วหน่าหมวย
บ่นเยอะแก่เร็วนะจ๊ะ”
“เดี๋ยวเถอะ
เจ้าลูกคนนี้นี่”
เจ้าหนูหอมแก้มหม่าม๊าแรงๆทั้งสองข้าง
สวมเกี๊ยะคู่โปรด
แล้วจึงวิ่งแล่นออกจากบ้าน
โดยไม่ลืมที่จะสวมเสื้อฮู้ดสีแดงตัวสวยออกไปด้วย
หมู่บ้านถัดไปที่คุณยายของเธออาศัยต้องเดินผ่านทุ่งหญ้าขนาดใหญ่
ทุ่งหญ้านั้นมีต้นอ้อปลิวไสวล้อเล่นลม
และยังมีดอกไม้นานาพันธุ์ออกดอกบาน
สะพรั่ง มีผีเสื้อตัวเล็กตัวน้อยบินไปมา
อากาศหรือก็เย็นสบาย และในขณะ
ที่คชากำลังเดินชื่นชมกับความงามของธรรมชาติสองข้างทาง
ไปเรื่อย ๆ อยู่นั้น
ก็เกิดได้มีหมาป่าหล่อมาดแมนแฮนซ่ำตัวหนึ่งชื่อเจ้าเต๋าที่บังเอิญเดินผ่านมาเข้าพอดี
ด้วยพื้นเพของเจ้าหมาป่าหนุ่มที่เป็นสายพันธุ์กาฬสินธุ์เนี่ยน
พอได้กลิ่นหอมของลาบก้อยจากตะกร้าของหนูน้อยหมวกแดง
มันจึงหยุดชะงักพลันคิดว่า
“ลาบก้อยท่าจะแซ่บคักๆ
อยากกินชะมัดเลย แพล่บๆๆ
เจ้าของตะกร้านั่น..........ซื๊ดดดด......ยิ่งน่ากินหลายๆ”
และไวเท่าความคิด
มันรีบวิ่งไปดักหน้าหนูน้อยหมวกแดงเอาไว้
ตอนแรกคชาก็ตกใจเพราะเคยได้ยินมาว่า
หมาป่ามันชอบกัดเด็ก
แต่ด้วยเพราะคชาเป็นเด็กที่เชื่อคนง่ายนั่นเอง
หนูน้อยจึงหยุดยิ้มหวานให้พี่หมาป่าสุดหล่อในชุดหนังสีดำมันวับที่ยืนขวางตัวเองอยู่ตรงหน้า
เจ้าหมาป่าเห็นหนูน้อยหมวกแดงไม่มีท่ารังเกียจรังงอน
จึงรีบพูดขึ้นว่า
“อย่าตกใจไปเลยตัวเล็ก
พี่แค่อยากจะเป็นเพื่อนด้วยเท่านั้น
แล้วนี่เราชื่ออะไร
จะไปไหนเหรอจ๊ะ?”
หมาป่าพูดพลางจ้องใบหน้าสวยหวานด้วยดวงตาเป็นมันวาวทีเดียว
หนูน้อยหมวกแดงได้ตอบอย่างเคอะเขินเอียงอาย
“หนูชื่อคชาจ้ะ
กำลังจะเอาอาหารนี่ไปให้ยายที่กำลังนอนป่วยอยู่จ้า”
“เหรอครับ
ไหนพี่ดูสิ มีอะไรบ้าง”
“แต่....”
คชาหันรีหันขวางเพราะหม่าม๊าคนดีสอนว่าไม่ให้พูดกับคนแปลกหน้า
แต่คุณพี่หมาจิ้งจอกก็ดูจะเป็นคนใจดีนะ
คงไม่เป็นไรหรอก
“หน่านะ
ดูนิดเดียวเอง แวะคุยกับพี่ก่อน
เดินมาคงเหนื่อย ดูสิ
เหงื่ออกเต็มไปหมดเลย
พักแป๊บนึงเน๊อะ”
หมาป่าสุดหล่อใช้มือใหญ่เช็ดเหงื่อที่ข้างแก้มของหนูน้อยหมวกแดง
มือใหญ่ที่แสนอบอุ่นและรอยยิ้มอันอ่อนโยนนั้นทำให้คชาใจอ่อนจนได้
“อืม
ก็ได้”
หมาป่าเจ้าเล่ห์จูงคชาน้อยไปที่ใต้ต้นไม้ใกล้ๆพลางดึงน้องลงนั่งลงบนตักของตัวเอง
หนูคชามัวแต่มึนเมาไปกับกลิ่นน้ำหอมและรอยยิ้มเจ้าเสน่ห์ของพี่หมาป่าเลยคล้อยตามอย่างว่าง่าย(ใจง่ายสุดๆ)
“ไหนดูสิ
มีอะไรในตะกร้าบ้าง”
“ก็หลายอย่างจ้า
มี....”
คชาคนซื่อเปิดตะกร้า
คลี่ผ้าคลุมกล่องอาหารลายนารูโตะสีเขียวสดใสออกให้เจ้าหมาป่าได้เชยชมของข้างใน
พร้อมกับสาธยายรายการอาหารตรงหน้า
เจ้าหมาป่าคนหื่นใจจดใจจ่ออยู่กับปากสีชมพูสดที่ขยับเจี้อยแจ้วซึ่งดูน่าอร่อยมากกว่าอะไรในโลกนี้เสียอีก
ยิ่งก้นกลมๆของน้องน้อยตัวหอมๆบดเบียดอยู่กับฮอทดอกของตัวเองด้วยแล้ว....
“ขอพี่ชิมหน่อยได้ไหมอ่ะ”
“ไม่ได้หรอก!ก็นี่ของคุณยายนะ
จะให้พี่เต๋ากินได้ไง”
“โห
งกอ่ะ งั้นสตรอว์เบอร์รี่ี่นี่
ขอกินสักคำได้ไหมอ่ะ”
“อ๊ะ!ไม่ได้นะ
นั่นของคชา”
เด็กน้อยรีบฉวยสตรอว์เบอร์รี่ี่ลูกโตออกจากมือหมาป่าเจ้าเล่ห์แล้วยัดใส่ปากตัวเองโดยพลัน
แต่คชาคงจะไม่รู้ว่า
หมาป่ามีชื่ออย่างเจ้าเต๋า
เดอะกาฬสินธุ์เนี่ยนแล้ว
หากต้องการสิ่งใดก็จะเอามาเป็นของตนให้ได้
เต๋าจึงประกบตามงับสตรอว์เบอร์รี่ี่เนื้อฉ่ำ
หวานอมเปรี้ยวที่คชากัดไว้นั่นเอง
นอกจากจะได้ชิมสตรอว์เบอร์รี่ี่หวานๆจากสวนของแม่หมวยแล้ว
ปากนุ่มดึ๋งดั๋งสีแดงสดของลูกชายแม่หมวยก็ถูกเจ้าหมาป่าชิมไปในคราวเดียวกันอย่างหื่นกระหาย
เด็กน้อยไร้เดียงสาอย่างคชาไม่เคยถูกใครจู่โจมรวดเร็วอย่างงี้มาก่อน
ไม่รู้จะแก้สถานการณ์ยังไงจึงได้แต่ตัวอ่อนยวบอยู่ในอ้อมแขนของหมาป่าตัวโตตรงนั้นเอง
เมื่อหมาป่าได้ชิม”สตรอว์เบอร์รี่ี่หวานเจี๊ยบ”อย่างจุใจแล้ว
จึงยอมปล่อยหนูน้อยหมวกแดงให้หายใจได้อย่างเต็มปอด
“อ๊าๆ
พะ พี่เต๋าอ่ะ คนบ้า!
พึ่งเจอกันจะมาจูบกันได้ไงเล่า!!”
คชาตีหน้าอกแกร่งของหมาป่าตัวโตให้วุ่นด้วยความเขิน
“อ้าว
ตีพี่ทำไมล่ะ ก็ชาผิดเองนะ
ไม่ยอมให้พี่กินสตรอว์เบอร์รี่ี่
นี่ก็ใกล้เที่ยงแล้ว พี่หิวนิ
มีอะไรกินอีกไหมจ๊ะ”
“ห๊า!
จะเที่ยงแล้วเหรอ
คุณยายรอกินข้าวอยู๊ๆๆๆ
แว๊กกกๆๆๆๆ”
หนูน้อยหมวกแดงลุกพรวดออกจากอ้อมอกอุ่นของหมาป่าเจ้าเล่ห์พลันขยับเสื้อผ้า
จับผมให้เข้าที่เข้าทาง
หนูน้อยเสียเวลาเถลไถลมากพอแล้ว
ถ้าหม่าม๊ารู้จะต้องโดนเอ็ดเอาแน่ๆ
หมาป่าใจหายเมื่อเด็กตัวนุ่มๆอุ่นๆลุกจากตักของตัวเองไป
เขารู้ว่าหากปล่อยให้หนูน้อยหลุดมือไปวันนี้
เห็นทีคงจะไม่มีโอกาสได้ขย่ำเนื้อหวานๆอีกเป็นแน่
ครั้นจะดักฉุดตรงนี้ก็คงไม่งาม
กลางแจ้งแถมสว่างจ้าเกิดใครมาเห็นคงยุ่ง
จะล่อให้กลับไปรังหมาป่าด้วย
หนูน้อยก็คงไม่ยอม
เห็นทีคงต้องไปดักรอที่บ้านยายแมกซ์นั่นแหละ
ความคิดอันร้ายกาจของเจ้าหมาป่าจึงโลดแล่นในทันที
“คชาชอบนารุโตะนิใช่ไหม
พี่เห็นลายผ้าคลุมกล่องข้าวเมื่อกี้”
“อะ
อื้ม ใช่ ทำไมเหรอ”
หนุ่มน้อยหมวกแดงรู้สึกงงงวยกับการเปลี่ยนเรื่องกระทันหันของเจ้าหมาป่า
จากที่ทำให้เค้าหน้าแดงอยู่ดีๆก็กลับมาคุยเรื่องนารูโตะเสียอย่างนั้น
เจ้าหมาป่าแอบยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะพูดว่า
“ญาติพี่เปิดร้านขายของเล่นตรงชายป่าด้านนู้นอ่ะ
ไม่อยากแวะไปดูหน่อยเหรอ
พึ่งเอาของเล่นนารูโตะมาลงใหม่เพียบ
มีหนังสือการ์ตูนเล่มล่าสุดด้วยน๊า”
“ไม่ได้หรอกจ้ะพี่เต๋า
เดี๋ยวคุณยายหิวแย่เลย
เวลาแกหิวยิ่งชอบจับคชาฟัดจนตัวลายทั้งตัวเลยอ่ะ
ชาจักกะจี๋”
เจ้าเต๋าออกจะแปลกใจนิดหน่อยว่ายายประเภทไหนกันที่จับหลานฟัดจน”ตัวลาย”
แต่เอาเถอะ ตอนนี้เขาไม่มีเวลาจะมาสนใจเรื่องจุกจิก
สมองควรทำงานว่องไวในการหาทางหว่านล้อมหนูน้อย
“เอางี้
เดี๋ยวพี่เอากับข้าวไปส่งให้คุณยายก่อน
คชาก็แวะไปดูก็แล้วกัน อ่ะ
พี่ให้เงินเอาไปซื้อนะ”(มีความป๋า)
เต๋ายัดถุงเงินสีแดงอ้วนๆใส่มือของคชา
พร้อมผิวปากเรียกเจ้าชิโร่
สมุนคู่ใจให้ช่วยนำทาง
“แต่....พี่เต๋าจะรู้จักบ้านคุณยายเหรอจ้ะ
แล้วคุณยายจะไม่ว่าคชาเหรอ”
“โอ้ย
บ้านยายแมกซ์ขี้เมาที่เอะอะก็เดินเข้าป่านั่นใช่ไหม
พี่รู้จักมัน เอ้ย!ท่านดี
เดี๋ยวพี่ดูแลเองหน่า ไปเหอะ”
เต๋าเอามือดันหลังน้องให้ยอมไปกับชิโร่ที่ยืนรออยู่
เต๋าทำหน้ากระหยิมยิ้มย่องที่น้องหนูน้อยหมวกแดงยอมเดินตามง่ายๆไม่ขัดขืน
หนูน้อยหมวกแดงไม่ทันสังเกตและสงสัยอะไร
เพราะเจ้าหนูกำลังคิดถึงเรื่องของเล่นนารูโตะพวกนี้อยู่
"แวะไปดูแป๊บเดียว
คงไม่เสียเวลามากหรอกมั้ง
แล้วที่สำคัญคุณยายก็อาจจะอยากเล่นด้วยก็ได้(เหรอออ)"
คิดได้ดังนั้น
หนูน้อยหมวกแดงจึงวิ่งกระโดดโลดเต้นตามเจ้าชิโร่ไปด้วยความร่าเริง....(ล่อได้ด้วยของเล่น)
ส่วนเจ้าหมาป่าเมื่อมันได้ยินว่ายายของหนูน้อยหมวกแดงคือยายแมกซ์ขี้เมาประจำหมู่บ้านซึ่งเขาคุ้นเคยเป็นอย่างดีเพราะชอบทะเลาะแย่งคิวร้านลาบกันเป็นประจำ
มันก็คิดจะใช้โอกาสนี้แก้แค้นด้วยการงาบหลานสุดที่รักไปกินในคราเดียว
" คชาบอกว่าบอกว่ายายกำลังไม่สบาย
จะต้องไม่มีเรี่ยวแรงอะไรที่จะต่อสู้เราได้แน่ๆ
แล้วพอจัดการไอ้แมกซ์เรียบร้อยแล้วแล้ว
ทีนี้ก็ดักรอ
แล้ว”กิน”หนูน้อยหมวกแดงทีหลัง..เห่อๆๆๆๆๆๆๆๆ
"
มันคว้าตะกร้าที่หนูน้อยหมวกแดงทิ้งไว้แล้วรีบวิ่งไปที่บ้านของคุณยายที่นอนป่วยอยู่ทันที
และเมื่อมันมาถึงก็เคาะประตูร้องเรียกแถมทำเสียงเลียนแบบหนูน้อยหมวกแดง
“ยาย...คุณยายจ๋า
เปิดประตูให้หนูหน่อย
นี่หนูน้อยหมวกแดงเองจ้า..
เปิดประตูให้หน่อยสิจ๊ะ...”ติดจะแหบไปนิด
แต่ก็เอาหน่า
คุณยายที่อยู่ในบ้านก็เชื่อสนิทว่าเป็นเสียงของหลานจริง
ๆเสียด้วย(นี่ก็โง่)แต่พอคุณยายเดินกระย่องกระแย่งมาเปิดประตูเพื่อรับ
หลานรักเข้าเท่านั้นเอง...
“เฮ้ย
ไอ้เต๋า เอ็งมาทำไมวะ
เสือกมาทำเสียงสะดิ้งอีก
น่าขนลุกชิบหาย”
“ไรวะ
นี่กุได้ยินว่ามึงป่วยก็อุตส่าห์มาเยี่ยม
จะแดกไหมข้าวหะ”
ยายแม็กซ์ยิ่งรู้สึกขนลุกขนพองขึ้นไปอีกเมื่อได้ยินว่าคู่กัดเบอร์หนึ่งของตัวเองเอาอาหารมาเยี่ยม
แต่พอเหลือบไปเห็นตระกร้าอาหารพร้อมผ้าคลุมสีเขียวลายนารูโตะของหนูน้อยหมวกแดงสุดที่รักและก็ตื่นตระหนก
“ไอ้หมาป่าเจ้าเล่ห์
เอ็งทำอะไรน้องคชาของข้า”
“น้องคชาสบายดี
แต่คงไม่ใช่น้องคชาของเอ็งหรอก
เพราะเค้ากำลังจะกลายเป็นน้องคชาของข้าต่างหากละโว้ยยยย
อะนี่ เอาโหลยาดองไปย้อมใจซะ”
เจ้าหมาป่ายัดเยียดโหลยาดองให้ยายแมกซ์พร้อมกับทำหน้าเย้ยหยัน
ส่วนยายแมกซ์ถึงจะโมโหที่ไอ้หมาป่าวายร้ายมาลูบคมยุ่มย่ามกับคนของตนถึงถิ่น
แต่ก็ยอมรับโหลยาดองมาถือแต่โดยดี
“เฮ้ย!เอ็งก็แก้ผ้ามาให้ข้ายืมหน่อยดิ”
“ห๊า
เอ็ง…..ตาบ๊าาาา
ชอบเค้าก็ไม่บอกอ่ะ อิๆๆๆคิกๆๆ”
“คิกๆพ่อง
กูไม่ได้พิศวาสเมิ๊งงงง
กุจะยืมมาใส่ล่อหลานเมิงเฉยๆ”
“เฮ้ย
กูไม่ให้โว้ย
เอ็งอย่าคิดว่าจะมาขโมยน้องคชาไปจากอ้อมอกข้าง่ายๆนะเฟ้ย
ข้าเฝ้าทะนุถนอมมาแต่เล็กแต่น้อย
ข้าไม่ให้!”
“เอ่อ
ให้มันรู้กันไปว่าใครจะได้เจ้าหนูมาครอง
แต่เพราะยายแม็กซ์กำลังป่วย
เรียวแรงก็ร่อยหรอ
แถมยังต้องคอยถือโหลเหล้าดองยาอีก(หวงมาก)
คุณยายก็เลยพลาดท่าเสียทีโดนเจ้าหมาป่าจับแก้ผ้าจนเหลือเเค่กางเกงลิงตัวเดียวแล้วลากลงไปขังห้องใต้ดินง่ายๆ
“อยู่ในนี้แหละ
อะนี่ กระดาษกับดินสอ
เขียนต้นฉบับส่งให้ทันกับเค้าบ้าง
ต้องให้บ.ก.มาคอยทวงอยู่เรื่อย”
เจ้าหมาป่าไม่ได้ใจร้ายเสียทีเดียว
ก่อนปิดประตูยังอุตส่าห์แบ่งลาบก้อยกับข้าวเหนียวให้อย่างละครึ่งห่อ
แถมด้วยกระบะมะขามป้อมไว้ให้ยายแม็กซ์ได้ใช้กินแกล้มเหล้าย้อมใจยามที่ต้องทนฟังเสียงเค้า”กิน”หนูน้อยอยู่ข้างบนโดยที่ตัวเองทำอะไรไม่ได้เลย
หุๆ
“ไอ้เต๋า
เดี๋ยว”
“เตียงเอ็งก็น่านอนจังวะ
เสียเเต่เหม็นสาบกลิ่นเอ็งไปสักหน่อย
เเต่ไม่เป็นไร
เดี๋ยวก็มีเด็กตัวหอมๆมาให้ข้าฟัดละ
ข้าสุขใจจริงโว้ยยย ไปละนะ”
“มึ๊ง!!”
เจ้าหมาป่าขัดประตูเสียแน่นสนิท
ก่อนจะเดินผิวปากอย่างอารมณ์ดีกลับขึ้นมาบนบ้าน
หลังจากที่เจ้าหมาป่าแอบชิมลาบก้อยที่เหลือกับข้าวเหนียวปั้นโต
เปลี่ยนผ้าปูที่นอนชุดใหม่เพราะเค้าทนสูดกลิ่นของยายแม็กซ์ไม่ไหว
เจ้าหมาป่าเจ้าเล่ห์ก็จัดการถอดเสื้อผ้าของตัวเองออก
สวมหมวก สวมแว่นตา
ของคุณยายแล้วกระโดดขึ้นเตียง
เอาผ้าห่มคลุมตัวของมันไว้
แล้วมันก็นอนรอหนูน้อยหมวกแดง
ที่จะมาถึงอย่างใจเย็น
“เด็กน้อยนั่นมันเชื่อคนง่าย
จะต้องนึกว่าข้าคือยายของมันจริงๆอย่างแน่นอน
และเมื่อมันเดินเข้ามาใกล้
ๆ ก็จับมันกินได้อย่างง่าย
ๆ เห่อๆๆๆๆ”
ส่วนคชานั้น
หลังจากใช้เงินในถุงจนเกือบหมดก็หอบถุงสารพัดของเล่นกะจะมาอวดคุณยายที่บ้าน
ก็เดินร้องเพลงร่าเริงเลียบบึงอ้อมมาตามเส้นทางอันคุ้นเคยเพื่อไปบ้านคุณยายที่รัก
และเพียงไม่นาน
เวลาที่มันรอคอยก็มาถึง
เมื่อมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
“ก๊อก
ก๊อก ก๊อก”
ตามมาด้วยเสียงเรียกของหนูน้อยหมวกแดง
“คุณยายจ๋า
อยู่หรือเปล่าจ๊ะ”
สักพักก็มีเสียงตอบกลับมาว่า
“อยู่จ๊ะหลาน
ยายอยู่ในห้องนอนแน่ะ
เข้ามาสิจ๊ะ”
หนูน้อยหมวกแดงจึงเดินเข้ามาที่เตียงของคุณยาย
หนูน้อยหมวกแดงพนมมือไหว้คุณยายของเธอ
ด้วยความเคารพและกล่าวว่า
“หวัดดีจ้า
คุณยาย”
คุณยายตัวปลอม
หรือเจ้าหมาป่ายกมือรับไหว้หนูน้อยหมวกแดง
แล้วหนูน้อยหมวกแดง
ก็สังเกตเห็นแขนที่ยาว
และเต็มไปด้วยขนยาว ๆ ของคุณยาย
ก็ถามขึ้น ด้วยความสงสัยว่า
“คุณยายจ๋า
ทำไมแขนของคุณยายถึงยาวแล้วก็มี
ขนละจ๊ะ”
เจ้าหมาป่าตอบว่า
“ที่ขนของยายยาวแล้วก็มีขน
ก็เพราะยาย เอาไว้กอดหลานให้ชื่นใจไงจ๊ะ
“ (ปรากฎว่าเจ้าหนูโง่กว่ายายไปอีก)
แล้วหนูน้อยหมวกแดงก็เห็นหูที่ยาวของคุณยาย
ก็เลยถามขึ้นด้วยความแปลกใจอีกว่า
“คุณยายจ๋า ทำไมหูของคุณยายถึงยาวอย่างนั้นละจ๊ะ”
เจ้าหมาป่าเริ่มจะหงุดหงิด
จึงพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นักว่า
ทำไมมันงัวงี้ฟะ
“ยายก็..
เอาไว้ฟังเสียงหลานให้ชัดๆนะสิ”
แต่หนูน้อยหมวกแดงยังไม่คลายความสงสัย
เมื่อเธอเหลือบไปเห็นเขี้ยวที่ยาวและคมวับของคุณยายของเธอ
เธอเกิดความกลัวจึงค่อย ๆ
ถอยออกและถามด้วยเสียงสั่น
ๆ ว่า
“ละ...แล้ว..
ทำไม
ฟันกับปากของคุณยายถึงได้ยาวแล้วก็น่ากลัวอย่างนั้นละจ๊ะ”
เจ้าหมาป่าหมดความอดทนเพียงแค่นั้นเพราะเค้าเองก็รู้สึกจิตหงุดเงี้ยวไม่ใช่น้อย
ก็เจ้าหนูหอมน่ากินเสียขนาดนี้
มันแยกเขี้ยวที่ขาวเป็นมันวับ
ของมันแล้วตอบว่า
““เหอ
ๆๆๆ ที่ฟันกับปากมันยาวและใหญ่อย่างนี้น่ะน้า..หนูน้อยหมวกแดงเอ๋ย
ก็...เอาไว้กินเจ้าอย่างนี้ยังไงเล่า
เหอๆๆๆ”
“นั่นมัน....
พี่เต๋า!!”
เมื่อเจ้าหมาป่าตัวร้ายพูดจบก็กระโจนออกมาจากผ้าห่ม
พร้อมทั้งกับย่างสามขุม
ตรงเข้าประชิดจนติดตัวของหนูน้อยหมวกแดงทันที
มันหัวเราะเสียงดังลั่น
แล้วตรงเข้าจับหนูน้อยหมวกแดงโยนขึ้นไปบนเตียง
ก่อนจะกระโจนขึ้นทาบทับจับหนูน้อยตรึงแขนไว้แน่นกับเตียง
“น่ากิน
น่ากินไปทั้งตัวเลย คชาของพี่
ขอพี่ชิมหน่อยนะคนดี”
เจ้าหมาป่าใช้ฟันคมกัดกระชากเสื้อเชิ๊ตตัวบางจนกระดุมขาดกระเด็นเผยให้เห็นแผ่นอกขาวผ่องกับเม็ดทับทิมน้อยๆทั้งสอง
เจ้าหมาป่าลากลิ้นชิมเนื้อหยุ่นหวานสลับไปมาทั้งสองข้างอย่างย่ามใจ
ใบหน้าน่ารักที่โผล่พ้นออกมาจากฮู้ดสีแดงเบะปากร้องไห้ด้วยความกลัว
“ฮื้ออออ
เจ้าหมาป่าใจร้าย อุตส่าห์ไว้ใจกัน
ดันมาทำร้ายกันได้ลงคอ”
เจ้าหมาป่าไม่สนใจฟังเสียงทัดทานหรือมือเล็กที่ตบตีเขา
มันรวบข้อมือน้อยของคชาสองข้างไว้ในมือ
แล้วจัดการปลดกางเกงขาสั้นตัวจ้อยของคชาและเสื้อผ้าของตัวเองออกในคราวเดียวจนล่อนจ้อน
เด็กน้อยทั้งตกใจ
ทั้งเสียใจและเขินอาย
แก้มกลมเปื้อนน้ำตาแดงปรั่งสีเลือดฝาด
ปากน้อยๆเว้าวอนขอร้องให้พี่หมาป่าหยุดรังแกตัวเองเสียที
“โถ
เด็กน้อย ไม่ต้องกลัวพี่หรอกนะคนดี
พี่จะทำให้คชามีความสุขนะ”
เจ้าหมาป่ามองสำรวจร่างขาวราวกับหิมะ
มันลูบไล้ผิวเนียนละเอียด
พยายามหักห้ามใจไม่ให้ทำรุนแรงกับเหยือตรงหน้า
จะกินของอร่อย มันต้องใจเย็น
เจ้าหมาป่าประคองใบหน้าสวยขึ้นรับจุมพิตอันดูดดื่ม
หนูน้อยหมวดแดงมึนเมากับรสจูบของเจ้าหมาป่าวายร้ายเสียแล้ว
จากเสียงอ้อนวอนเหลือแค่เพียงเสียงครางอื้อในลำคอ
มือที่เคยผลักไสก็กลับขยุ้มเสื้อของคนข้างบนเสียแน่น
เมื่อชิมริมฝีปากอิ่มจนพอใจแล้ว
จึงผละออกจากเด็กน้อยแสนหวานอร่อยตรงหน้า
ไม่ใช่เพราะมันคิดจะหยุดหรอกนะ
แต่เพราะมันอยากจะให้หนูน้อยได้พักหายใจหายคอต่างห่าง
“คะ
คุณหมาป่า...”
“เรียกพี่เต๋าสิครับ”
เจ้าหมาป่าก้มมองหนูน้อยหมวกแดงที่นอนอ่อนยวบบนเตียงนุ่ม
ตาปรือราวกับโดนฤทธิ์สุรา
แก้มใสสีแดงระเรื่อ
ริมฝีปากอิ่มแดงสดจากการบดขยี้เผยอน้อยๆชวนให้มันอยากจะชิมซ้ำแล้วซ้ำอีก
“พี่เต๋าจ๋า
ปล่อยชาไปนะ ชาอยากกลับบ้านไปหาหมั่มม๊าแย้ววว
ฮื้อ...”
“คนดีของพี่
ขอพี่หอมพี่กอดอีกนิดนึงแล้วเดี๋ยวพี่จะให้กลับบ้านนะ”
เจ้าหมาป่าสุดจะทนกับความน่ารักของคนตรงหน้า
ใบหน้าใหญ่ก้มซุกไซ้ซอกคอนวล
บ้างก็อ้างับเนื้ออ่อนๆเข้าไปเต็มคำด้วยสัญชาตญาณดิบของหมาป่าในยามล่าเหยื่อ
เด็กน้อยสะดุ้งโหยงทุกครั้งที่ฟันคมฝังเข้าเนื้ออ่อนจนเป็นรอยแดง
แต่เมื่อใดที่น้องน้อยร้องจ้าด้วยความเจ็บเจ้าหมาป่าก็สลับโหมดทำตัวอ่อนโยนกับน้องเรื่อยไป
บ้างก็บดบี้ยอดอกน้อยๆของคชาจนเด็กไม่ประสาเผลอร้องครางไปกับรสสัมผัสแปลกใหม่นั้น
ลิ้นสากยาวลากผ่านแผ่นอกบางเรื่อยไปตามหน้าท้องก่อนจะตะหวัดหยอกล้อกับหนอนน้อยที่ชมพูนุ่มนิ่มที่เริ่มจะพองตัวขู่ฟ่อเจ้าหมาป่าวายร้ายอยู่ในที
“พี่เต๋าจ๋า
อย่าทำร้ายหนอนหนู อ๊ะ!”
คชาเอามือกุมจุ๊ดจู๋พยายามปกป้องมันจากการรังแกของไอ้หมาป่าวายร้าย
แต่เจ้าหมาป่าก็ดื้อแพ่งแกะมือน้อยๆออกจนได้
“นอนเฉยๆครับ
ถ้าดื้อกับพี่ พี่จะกัดเจ้าหนอนจริงๆด้วย”
คชาร้องเสียงหลงห้ามปรามเจ้าหมาป่าอันธพาลเสียชุลมุน
หม่าม๊าสอนเค้าเสมอว่า
หนอนน้อยของคชานั้น
เป็นของสำคัญมาก
และคชาจะต้องไม่ให้ใครดูนอกจากคนที่ทำให้คชารักจนรู้สึกเหมือนมีผีเสื้อบินอยู่ในท้องเท่านั้น
“แต่คุณหมาป่าก็ทำให้คชารู้สึกวูบวาบนะ
คงใช้ได้แหละเน๊อะ”
หนูน้อยหมวกแดงคิดในใจ
เจ้าหมาป่าแกะมือน้อยที่กอบกุมเจ้าหนอนออกก่อนจะแลบลิ้นยาวโลมเลียลากตั่งแต่ท้องน้อยลงมาถึงเจ้าหนอนตัวสำคัญที่เริ่มขยับยุกยิกอยู่ไม่เป็นสุขเสียแล้ว
“อื้มมมม
ช่างอร่อยเสียจริงๆเลย
หอมหวานที่สุดเลย
หนูน้อยหมวกแดงของพี่”
“อ๊า..พี่เต๋า
พี่เต๋าจ๋า”
ลิ้นซุกซนของเจ้าหมาป่าตะหวัดรับลูกกระพรวนน้อยของคชาเข้าปาก
ดูดคลึงเพียงเล็กน้อยแล้วก็ปล่อยออก
คชาสัมผัสความเสียวซ่านจนนิ้วเท้าน้อยๆบิดงอ
มือเล็กกำหูนุ่มทั้งสองข้างของเต๋าแน่น
ไม่รู้ว่าควรจะผลักไสหรือรั้งไว้ดี
ยิ่งพอเต๋าย้ายตำแหน่งลงไปหยอกล้อกับปากทางแคบๆข้างหลังด้วยแล้ว...
“อ๊ะ
พี่เต๋าจ๋า อย่าเลียตรงนั้น
อื๊ออออ”
“ตรงนี้ของคชาน่ารักจังเลย
พี่หิว ให้พี่กินหน่อยนะ”
“พะ
พี่เต๋าจ๋า
ถ้าหิวก็...กินสตรอว์เบอร์รี่ี่ของคชาก็ได้นะ
คชายกให้หมดตะกร้าเลย
แต่อย่ากินก้นคชาเลยนะจ้ะ”
เด็กน้อยครางเสียงอ๋อย
เต๋าอดขำกับความไร้เดียงสาของหนูน้อยหมวกแดงไม่ได้
มันเลยเอื้อมมือไปหยิบสตรอว์เบอร์รี่ี่ลูกโตจากในตะกร้าขึ้นมาสองลูก
“
ลูกเล็กนี่
พี่ให้คชากิน “
เต๋างับสตรอว์เบอร์รี่ี่ไว้ในปากเพื่อที่จะได้ป้อนให้คนร่างเล็กตรงหน้า
ถือว่าตอบแทนที่เค้าฉกฉวยชิมมันจากปากสวยเมื่อตอนเที่ยง
คชาหลับตาพริ้มรับรสหวานและรอยจูบ
“
ส่วนลูกใหญ่นี่.........พี่จะกินเอง”
คชาคิดว่าประเดี๋ยวคงคงจะต้องได้ป้อนสตรอว์เบอร์รี่ี่แก่เจ้าหมาป่าด้วยปากอีกแน่
แต่เปล่าเลย
เจ้าหมาป่ากลับยัดสตรอว์เบอร์รี่ี่ลูกเขื่องเข้าไปในช่องทางสีชมพูสวยที่พึ่งถูกรังแกด้วยลิ้นสากเมื่อครู่
แม้ช่องทางน้อยดูจะคับแคบ
แต่เพราะน้ำลายของเจ้าหมาป่าที่ชุมโชกอยู่ตรงปากทาง
สตรอว์เบอร์รี่ี่ผิวขลุขละก็ไถลลื่นเข้าไปได้อยู่ดี
คชาตกใจหดเกร็งบีบรัดจนสตรอว์เบอร์รี่ี่เนื้อฉ่ำแทบไหลหลุดออกมาก
น้ำหวานสีแดงไหลย้อยจากช่องทางน้อย
“ชาไม่กินทางนี้
พี่เต๋าจ๋า ชาไม่เอาน๊าาาา”
“แต่พี่อยากกินทางนี้นิ
ตามใจพี่หน่อยนะ”
ลิ้นใหญ่ตวัดกินน้ำหวานจากปากทางนุ่ม
บ้างก็ขยับไปหยอกล้อดูดเลียเจ้าหนอนน้อยด้วยเกรงว่ามันจะเหงา
นิ้วซุกซนถูกสอดเข้าแทนที่
นิ้วแกร่งถ่างแทงบดบี้ผลสตรอว์เบอร์รี่ี่ข้างในเสียจนเละตุ้มเป๊ะ
“อื้มมมม
หวานมากเลยคชา อร่อยมาก
กินเท่าไหร่ก็ไม่พอจริงๆเลยหนูน้อยหมวกแดงของพี่”
“อ๊ะ
ตรงนั้น อ๊าๆๆๆ”
“ตรงไหน
ตรงนี้เหรอจ๊ะ”
เต๋าแกล้งกดผนังนุ่นภายในซ้ำๆ
แต่ก็ยังคงจู่โจมส่วนอ่อนไหวข้างหน้าของคชาอย่างต่อเนื่อง
จนในที่สุดคชาก็สุดจะกลั้น
ปล่อยให้ความรู้สึกทั้งหมดทะลักเหมือนเขื่อนแตก
ก่อนที่จะรู้สึกขาวโพลน
ล่องลอยเบาหวิว แปลกๆแต่ก็มีความสุขมาก
“ครั้งแรกเหรอคชา”
คชาผงกหัวน้อยๆทั้งที่ยังหลับตาพริ้ม
เจ้าหมาป่าหัวเราะชอบใจในอากัปกิริยาที่น่ารักนั้น
“มีอะไรที่จะต้องเรียนรู้อีกเยอะเลยนะ
เดี๋ยวพี่จะค่อยๆสอน
แต่ตอนนี้ขอพี่กินคชาก่อนนะ”
หนูน้อยหมวกแดงไม่เข้าใจว่าพี่หมาป่าหมายถึงอะไร
เด็กน้อยเปิดเปลือกตาขึ้นช้าๆ
ก่อนจะต้องกระพริบตาถี่ๆเมื่อเห็นฮอตดอกอันเขื่องจ่ออยู่ที่ปากทางน้อยของตัวเอง
“คะ
คุณหมาป่าจ๋า ชากลัว
ต้องเจ็บแน่ๆเลย ฮื้อๆๆๆ
อย่ากินชาเลยนะจ๊ะ”
คชาอ้อนวอนเจ้าหมาป่าเสียงอ๋อย
เจ้าหมาป่ากอดน้องไว้แนบอก
ระดมจูบจนทั่วใบหน้าหวาน
แล้วกระซิบเสีบงแผ่วเบา
“ไม่ต้องกลัว
เจ็บเดี๋ยวเดียว เหมือนมดกัด
เดี๋ยวก็จะชอบเองนะ อย่าเกร็ง
เด็กดี
อย่างงั้น”
เจ้าหมาป่าใจร้ายเสือกไถฮอทดอกท่อนเบ้งเข้าปากทางแคบจนได้
และก็จริงอย่างที่มันว่า
เจ็บแป๊บเดียวแล้วกลับกลายความเสียวซ่านอย่างที่สุด
เมื่ออะไรดูจะเข้าที่เข้าทางดี
เจ้าหมาป่าหื่นกระหายก็ขยับเดินหน้าเต็มกำลังกระแทกกระทั้งสะโพกอวบจนเตียงคลอน
เสียงครางดังสนั่นหวั่นไหวก้องไปจนทั่วทั้งป่าเลยทีเดียว
“หนูน้อยหมวกแดงอยากลองขี่พี่หมาป่าไหม”
ไม่ทันที่หนูน้อยหมวกแดงจะได้ตอบ
เจ้าหมาป่าพลิกตัวลงด้วยล่างแล้วให้คชาเป็นฝ่ายควบขี่เอง
ตอนแรกคชาก็ไม่รู้ว่าต้องทำยังไง
แต่เพราะเขาเป็นเด็กหัวไว
ประกอบกับมือใหญ่ที่จับเอวบางของหนูน้อยหมวกแดงให้โยกขึ้นลงตามใจปรารถนา
ผลก็คือความสุขอย่างที่สุดของคนทั้งคู่นั่นเอง
“อ๊าๆๆๆๆคุณหมาป่าเบาๆ”
“พี่เบาไม่ไหวแล้วคชา
อีกนิดเดียว นะ ซื๊ดดดด”
หนูน้อยหมวกแดงตั้งหน้าตั้งตาขี่คุณหมาป่าอย่างขมักเขม้น
เจ้าหนอนน้อยพองตัวตัวร่าเริงเสียดไถอยู่กับขนหยาบบนท้องน้อยของคนตัวโตข้างล่าง
คุณหมาป่าดูจะเป็นห่วงเจ้าหนอนน้อยจังใช้มือใหญ่ประคองไว้
ช่วยรูดรั้งให้เจ้าหนอนบรรเทาอาการตึงเครียดแถมยังช่วยกำกับจังหวะไปด้วยในตัว
“อ๊ะๆๆๆ
พี่เต๋า พี่เต๋าจ๋า”
“อื๊มมม
คชา อ๊า....”
หนูน้อยหมวกแดงร่วงผลอยลงไปในอ้อมอกใหญ่ของคนเบื้องล่าง
ใบหน้าสวยเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ
หัวใจดวงน้อยเต้นประสานกับเจ้าสัตว์ร้ายที่พึ่ง
“กิน”ตัวเองจนเต็มคราบ
ถูกกินนี่มันเป็นอย่างงี้นี่เอง
เหนื่อยชะมัดเลย
ความคิดสุดท้ายของเด็กน้อยก่อนที่เปลือกตาสวยจะปิดพริ้ม
คชาหลับฝันหวานถึงสวนสตรอว์เบอร์รี่ี่อันกว้างใหญ่ที่เขากับเจ้าหมาป่าช่วยกันเก็บกินอย่างไม่รู้จักอิ่ม
ส่วนเจ้าหมาป่าตัวแสบนั้น
ด้วยความตระกละเกินตัว
กินลาบกับข้าวเหนียวปั้นใหญ่
แถมยังกินหนูน้อยหมวกแดงสอดไส้สตรอว์เบอร์รี่ี่อีก
มันจึงเกิดหนักท้องเป็นอย่างมาก
และเป็นเหตุทำให้มันเกิดความง่วงอยากนอนขึ้นมาในทันทีทันใด
มันหลับสนิทแถมยังกรนเสียจนเสียงดังลั่นสนั่นหวั่นไหว
" คร๊อก..ฟี่...คร๊อก...ฟี้
"
ทั้งสองไม่รู้ว่าในขณะที่ทั้งคู่เริงรักกันอยู่นั้น
นายพรานที่เป็นเพื่อนบ้านเดินผ่านมาพอดี
เมื่อเขาได้ยินเสียงหนูน้อยหมวกแดงร้องครางอย่างทรมานจริงรีบวิ่งมาดู
นายพรานส่องหน้าต่างเข้าไปในห้องนอนของยายแม็กซ์
ก็เห็นน้อยหมวดแดงขี่คุณหมาป่า
ไม่ได้มีท่าทีเจ็บปวดแถมออกจะมีความสุขเสียด้วยซ้ำ
จึงเดินละไป
แต่ก็มานึกเป็นห่วงยายแม็กซ์ว่าหายไปไหน
แล้วทำไมสองคนนี้ถึงอยู่บนเตียงยาย
แม
็กซ์เล่า
เขาจึงย้อนกลับไป
เมื่อพรานป่าได้ยินเสียงร้องไห้ฟูมฟายออกมาจากห้องใต้ดินของคุณยาย
แต่เมื่อเขาพยายามฟังดู
ก็เกิดความสงสัย
"
เสียงน่ะมันดังออกมาจากบ้านคุณยายอย่างแน่นอน
แต่..เอ๊ะ...ทำไมถึงดังมาจากห้องใต้ดินล่ะ...เกิดอะไรหรือปล่าว
น่าสงสัยจัง?? "
นายพรานป่าด้วยความสงสัยเป็นอย่างมาก จึงแอบย่องเข้าไปในบ้านอย่างเงียบเชียบ
ภายในบ้านไม่มีแม้แต่เงาของคุณยายเลยสักนิด
นอกจากหมาป่าตัวหนึ่ง
กำลังนอนพุงกาง
และที่สำคัญหนูน้อยผิวขาวๆแก้มแดงๆนอนเปลื่อยเปล่าทาบทับอยู่บนอกของมันนั่นเอง
นายพรานแอบย่องลงบันได้ห้องใต้ดินช้าๆ
“ยายแม็กซ์อยู่นี่หรือปล่าว”
" ช่วยด้วย ช่วยด้วย
"
ใช่แล้วมันเป็นเสียงร้องของคุณยายที่พยายามร้องเรียกให้ใครมาช่วยอยู่ในห้องใต้ดิน
นั่นเอง
นายพรานป่าฟังจนแน่ชัดแล้วจึงรีบเปิดประตู
ช่วยคุณยายแม็กซ์ออกมาได้ทัน
“ไอ้เต๋า
มึ๊ง”
ยายแม็กซ์จับด้ามไม้กวาดรีบผลุนผลันขึ้นบันไดไปหวังจะหวดเจ้าหมาป่าสักยก
แต่นายพรานคว้าไว้เสียก่อน
“เดี๋ยวยาย
เห็นทีจะไม่ทันการแล้ว
คชาโดนกินจนหมดแรงหลับผลอยอยู่กับมันโน้น”
“หนอยแหนะ
ไอ้เต๋าข้าเฝ้าดูอยู่มานานหลายปี
ดันมาแย่งของข้าไปเสียนี่
และที่แย่ที่สุด นั่นเตียงข้า”
ยายแม็กซ์รู้สึกคับแค้น
จึงวางแผนจะแก้เผ็ดเจ้าหมาป่าตัวแสบ
เขาแอบย่องไปสะกิดเจ้าหนูที่นอนตัวล่อนจ้อนขาวอมชมพูอยู่บนอกของเจ้าหมาป่าตัวเเสบเบาๆ
“อะ
ยายจ๋า”
“จุ๊ๆๆ”
คชางับปากโดยไว
ตอนเเรกเค้าก็ง่วงอยู่
เเต่พอนึกขึ้นได้ว่าเค้านอนเปลือยโชว์ก้นกลมอมชมพูอย่างกะลูกพีชต่อหน้าคุณยายที่หน้าเหี้ยมนิดๆกับนายพรานคนข้างบ้านแล้ว
เค้าก็รู้สึกอายหน่อยๆ
ตาสว่างเลยทีเดียว
“ค่อยๆลุก
อย่าให้มันตื่นเชียวนะคชา”
“ยายจ๋า
ยายจะทำอะไรพี่หมาป่าเหรอจ๊ะ”
คชามองยายเเมกซ์และลูกสมุน(?!)ด้วยความงงงุน
คุณยายเอาเชือกมาทำไมกันนะ
“ไอ้หมาป่าเลว
ไอ้หมาป่าชั่ว อยากนอนนักใช่ไหม
เตียงกูเนี่ย ได้ มึงได้นอนสมใจเเน่”
ยายเเมกซ์บ่นงึมงำเหมือนคนวิปลาส
ขณะเดียวกันก็จับข้อมือข้อเท้าของเจ้าหมาป่าตัวเเสบ
ที่กำลังนอนหลับอยู่อย่างไม่รู้ตัวติดไว้กับเสาเตียงมือเป็นระวิง
“เอ้า
จะนั่งโป๊อีกนานไหมคชา
เเต่งตัวเข้าสิหลาน เร็วเข้า”
คชาคลานลงเตียงอย่างงงไม่หาย
มือน้อยเอื้อมหยิบเสื้อคลุมสีเเดงเเละกางเกงตัวน้อยที่เจ้าหมาป่าตัวร้ายถอดขว้างลงพื้นไม่ใยดีก่อนหน้า
“เอาเสื้อมันมาด้วย
แหมะ เสื้อหนังเปรียวขนาดนี้
ถูกใจข้าเสียจริงๆ หึๆๆ”
ยายเเมกซ์ที่ตอนนี้จับเจ้าหมาป่ามัดมือมัดเท้าจนสมใจเเล้ว
ก็คว้าเอาเสื้อผ้าของเจ้าหมาป่ามาใส่
เเต่ไม่ใช่เเค่เสื้อผ้านะสิ
หนูน้อยหมวกแดงเห็นยายเเมกซ์หยิบถุงเงินที่เจ้าหมาป่าพกไว้อีกหลายถุงไปด้วย
เเล้วไหนจะสร้อยเเหวนนาฬิกาอีก
“อวดรวยดีนักใช่ไหมมึง
ด๊ายยยย ปะ คชา ไปกันได้ละ”
“หะ
หา ยายจ๋า เอ่ออออ แล้วพี่เต๋า…..”
“ปล่อยมันนอนอยู่นิล่ะ
ปะ”
“แต่...ยายจ๋า
หนู….”
“กินราเม็งไหมคชา
ยายเลี้ยง ยายมีเหรียญเยอะเเยะ
เดี๋ยวซื้อของเล่นให้ด้วย
ยายรวยเเล้ว”
“อะ
ไปๆ อิๆๆๆๆ"
ถึงจะเห็นอยู่จะๆว่ายายเพิ่งคว้าถุงเหรียญนั่นมาจากผ้าผูกเอวของพี่เต๋าก็เถอะ
เเต่ตอนนี้มันอยู่ในมือคุณยาย
งั้นก็เป็นเหรียญของคุณยายสินะ
แหม วันนี้เค้าโชคดีจัง
มีคนเปย์ทั้งขึ้นทั้งล่อง
และเเล้วสองยายหลานพร้อมนายพรานจึงจากไปด้วยประการฉนี้
โดยไม่ลืมที่จะเปิดประตูทิ้งไว้ให้ลมโกรกเจ้าหมาป่าชีเปลือยถูกมัดอยู่บนเตียงให้หนาวเล่น
นี่ยายเเมกซ์คิดไปไกลถึงขนาดว่า
จะชวนเพื่อนฝูงในหมูบ้านมาดูฮอทดอกหมาป่าหื่นกามเล่นเลยทีเดียว
คงขำขันกันไม่น้อย สะใจดีจัง
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า……...คิดจะงาบใครไม่ว่า
อย่ามายุ่งกับหลานยายเเมกซ์
ระวังจะโดนรูดทรัพย์ไม่รู้ตัว55555