Wednesday, April 25, 2018

TK Special นิทานเรื่อง : หนูน้อยหมวกแดง






TK Special






นิทานเรื่อง : หนูน้อยหมวกแดง




นานมาแล้วที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีหม่าม๊าหมวยและลูกชายตัวโน้ยหน้าตาน่าเอ็นดูจิ้มลิ้มมุ้งมิ้งมากคนหนึ่งชื่อคชา หรือที่ใคร ๆ ต่างก็จะเรียกเจ้าหนูกันจนติดปากว่า.....




หนูน้อยหมวกแดง”




ที่เป็นเช่นนั้นก็เนื่องมาจากด้วยเจ้าหนูมักที่จะใส่ฮูที่เป็นแบบเสื้อคลุมติดกันสีแดงสด ซึ่งเสื้อฮูดนี้ ยายแมกซ์(ผู้ที่เอะอะก็เดินเข้าป่าเป็นประจำ)ซื้อให้เป็นของขวัญ วันไหนที่แดดดี อากาศร้อนเปรี้ยง42◦c เจ้าหนูก็มักจะหยิบออกมาใส่อยู่เสมอนั่นเอง




หนูน้อยคนนี้เป็นเด็กน่ารัก จิตใจดี(เป็นบางครั้ง) มีเมตตาต่อเพื่อน ๆ และสัตว์ทั้งหลาย(ยกเว้นต่อฝูงฮิปโป) ดังนั้นเจ้าหนูจึงเป็นที่รักยิ่งของทุกคน




อยู่มาวันหนึ่ง หม่าม๊าหมวยปลุกหนูน้อยที่ยังงัวเงียฝันหวานตื่นขึ้นมาแต่เช้าให้ไปอาบน้ำแต่งตัวด้วยเสื้อเชิ๊ตกลัดกระดุมสีขาวและกางเกงขาสั้นเนื้อนุ่มแสนสบาย พอคชาดูจะตื่นเต็มที่แล้วหม่าม๊าจึงสั่งว่า




วันนี้ลูกต้องเอาอาหารนี่ไปให้คุณยายที่กำลังนอนป่วยอยู่นะจ๊ะ”




หม่าม๊าคนสวยยื่นตะกร้าที่บรรจุอาหารคาวหวานสารพัด มีทั้งลาบก้อย ข้าวเหนียวและเหล้ายาดอง กับเครื่องเคียงต่างๆให้คชา




ครับ หม่าม๊า”




คชาเด็กดีตอบรับพลางฉวยตระกร้าจากมือของแม่ แล้วทำท่าจะลุกเดินจากไป โดยมีแม่ร้องสำทับขึ้นตามหลังว่า




อย่าเถลไถลและแวะเล่นที่ไหนด้วยนะจ๊ะลูก เพราะคุณยายกำลังรออยู่ แล้วอีกอย่างหนึ่งลูกอย่ากลับบ้านมืดค่ำด้วย อันตราย ได้ยินไหม?”




คชารับคำอีกครั้ง




รู้แล้วหน่าหมวย บ่นเยอะแก่เร็วนะ




เดี๋ยวเถอะ เจ้าลูกคนนี้นี่”




เจ้าหนูหอมแก้มหม่าม๊าแรงๆทั้งสองข้าง สวมเกี๊ยะคู่โปรด แล้วจึงวิ่งแล่นออกจากบ้าน โดยไม่ลืมที่จะสวมเสื้อฮูสีแดงตัวสวยออกไปด้วย













หมู่บ้านถัดไปที่คุณยายของเธออาศัยต้องเดินผ่านทุ่งหญ้าขนาดใหญ่ ทุ่งหญ้านั้นมีต้นอ้อปลิวไสวล้อเล่นลม และยังมีดอกไม้นานาพันธุ์ออกดอกบาน สะพรั่ง มีผีเสื้อตัวเล็กตัวน้อยบินไปมา อากาศหรือก็เย็นสบาย และในขณะ ที่คชากำลังเดินชื่นชมกับความงามของธรรมชาติสองข้างทาง ไปเรื่อย ๆ อยู่นั้น ก็เกิดได้มีหมาป่าหล่อมาดแมนแฮนซ่ำตัวหนึ่งชื่อเจ้าเต๋าที่บังเอิญเดินผ่านมาเข้าพอดี ด้วยพื้นเพของเจ้าหมาป่าหนุ่มที่เป็นสายพันธุ์กาฬสินธุ์เนี่ยน พอได้กลิ่นหอมของลาบก้อยจากตะกร้าของหนูน้อยหมวกแดง มันจึงหยุดชะงักพลันคิดว่า




ลาบก้อยท่าจะแซ่บคักๆ อยากกินชะมัดเลย แพล่บๆๆ เจ้าของตะกร้านั่น..........ซื๊ดดดด......ยิ่งน่ากินหลายๆ” 




และไวเท่าความคิด มันรีบวิ่งไปดักหน้าหนูน้อยหมวกแดงเอาไว้ ตอนแรกคชาก็ตกใจเพราะเคยได้ยินมาว่า หมาป่ามันชอบกัดเด็ก แต่ด้วยเพราะคชาเป็นเด็กที่เชื่อคนง่ายนั่นเอง หนูน้อยจึงหยุดยิ้มหวานให้พี่หมาป่าสุดหล่อในชุดหนังสีดำมันวับที่ยืนขวางตัวเองอยู่ตรงหน้า เจ้าหมาป่าเห็นหนูน้อยหมวกแดงไม่มีท่ารังเกียจรังงอน จึงรีบพูดขึ้นว่า




อย่าตกใจไปเลยตัวเล็ก พี่แค่อยากจะเป็นเพื่อนด้วยเท่านั้น แล้วนี่เราชื่ออะไร จะไปไหนเหรอจ๊ะ?”




หมาป่าพูดพลางจ้องใบหน้าสวยหวานด้วยดวงตาเป็นมันวาวทีเดียว หนูน้อยหมวกแดงได้ตอบอย่างเคอะเขินเอียงอาย




หนูชื่อคชาจ้ะ กำลังจะเอาอาหารนี่ไปให้ยายที่กำลังนอนป่วยอยู่จ้า” 




เหรอครับ ไหนพี่ดูสิ มีอะไรบ้าง”




แต่....”




คชาหันรีหันขวางเพราะหม่าม๊าคนดีสอนว่าไม่ให้พูดกับคนแปลกหน้า แต่คุณพี่หมาจิ้งจอกก็ดูจะเป็นคนใจดีนะ คงไม่เป็นไรหรอก




หน่านะ ดูนิดเดียวเอง แวะคุยกับพี่ก่อน เดินมาคงเหนื่อย ดูสิ เหงื่ออกเต็มไปหมดเลย พักแป๊บนึงเน๊อะ”




หมาป่าสุดหล่อใช้มือใหญ่เช็ดเหื่ที่ข้างแก้มของหนูน้อยหมวกแดง มือใหญ่ที่แสนอบอุ่นและรอยยิ้มอันอ่อนโยนนั้นทำให้คชาใจอ่อนจนได้




อืม ก็ได้”




หมาป่าเจ้าเล่ห์จูงคชาน้อยไปที่ใต้ต้นไม้ใกล้ๆพลางดึงน้องลงนั่งลงบนตักของตัวเอง หนูคชามัวแต่มึนเมาไปกับกลิ่นน้ำหอมและรอยยิ้มเจ้าเสน่ห์ของพี่หมาป่าเลยคล้อยตามอย่างว่าง่าย(ใจง่ายสุดๆ)




ไหนดูสิ มีอะไรในตะกร้าบ้าง”




ก็หลายอย่างจ้า มี....”




คชาคนซื่อเปิดตะกร้า คลี่ผ้าคลุมกล่องอาหารลายนารูโตะสีเขียวสดใสออกให้เจ้าหมาป่าได้เชยชมของข้างใน พร้อมกับสาธยายรายการอาหารตรงหน้า เจ้าหมาป่าคนหื่นใจจดใจจ่ออยู่กับปากสีชมพูสดที่ขยับเจี้อยแจ้วซึ่งดูน่าอร่อยมากกว่าอะไรในโลกนี้เสียอีก ยิ่งก้นกลมๆของน้องน้อยตัวหอมๆบดเบียดอยู่กับฮอทดอกของตัวเองด้วยแล้ว....

ขอพี่ชิมหน่อยได้ไหมอ่ะ”




ไม่ได้หรอก!ก็นี่ของคุณยายนะ จะให้พี่เต๋ากินได้ไง”




โห งกอ่ะ งั้นสตรอว์เบอร์รี่ี่นี่ ขอกินสักคำได้ไหมอ่ะ”




อ๊ะ!ไม่ได้นะ นั่นของคชา”




เด็กน้อยรีบฉวยสตรอว์เบอร์รี่ี่ลูกโตออกจากมือหมาป่าเจ้าเล่ห์แล้วยัดใส่ปากตัวเองโดยพลัน แต่คชาคงจะไม่รู้ว่า หมาป่ามีชื่ออย่างเจ้าเต๋า เดอะกาฬสินธุ์เนี่ยนแล้ว หากต้องการสิ่งใดก็จะเอามาเป็นของตนให้ได้ เต๋าจึงประกบตามงับสตรอว์เบอร์รี่ี่เนื้อฉ่ำ หวานอมเปรี้ยวที่คชากัดไว้นั่นเอง




นอกจากจะได้ชิมสตรอว์เบอร์รี่ี่หวานๆจากสวนของแม่หมวยแล้ว ปากนุ่มดึ๋งดั๋งสีแดงสดของลูกชายแม่หมวยก็ถูกเจ้าหมาป่าชิมไปในคราวเดียวกันอย่างหื่นกระหาย เด็กน้อยไร้เดียงสาอย่างคชาไม่เคยถูกใครจู่โจมรวดเร็วอย่างงี้มาก่อน ไม่รู้จะแก้สถานการณ์ยังไงจึงได้แต่ตัวอ่อนยวบอยู่ในอ้อมแขนของหมาป่าตัวโตตรงนั้นเอง

เมื่อหมาป่าได้ชิม”สตรอว์เบอร์รี่ี่หวานเจี๊ยบ”อย่างจุใจแล้ว จึงยอมปล่อยหนูน้อยหมวกแดงให้หายใจได้อย่างเต็มปอด

อ๊าๆ พะ พี่เต๋าอ่ะ คนบ้า! พึ่งเจอกันจะมาจูบกันได้ไงเล่า!!”

คชาตีหน้าอกแกร่งของหมาป่าตัวโตให้วุ่นด้วยความเขิน

อ้าว ตีพี่ทำไมล่ะ ก็ชาผิดเองนะ ไม่ยอมให้พี่กินสตรอว์เบอร์รี่ี่ นี่ก็ใกล้เที่ยงแล้ว พี่หิวนิ มีอะไรกินอีกไหมจ๊ะ”

ห๊า! จะเที่ยงแล้วเหรอ คุณยายรอกินข้าวอยู๊ๆๆๆ แว๊กกกๆๆๆๆ”

หนูน้อยหมวกแดงลุกพรวดออกจากอ้อมอกอุ่นของหมาป่าเจ้าเล่ห์พลันขยับเสื้อผ้า จับผมให้เข้าที่เข้าทาง หนูน้อยเสียเวลาเถไถลมากพอแล้ว ถ้าหม่าม๊ารู้จะต้องโดนเอ็ดเอาแน่ๆ

หมาป่าใจหายเมื่อเด็กตัวนุ่มๆอุ่นๆลุกจากตักของตัวเองไป เขารู้ว่าหากปล่อยให้หนูน้อยหลุดมือไปวันนี้ เห็นทีคงจะไม่มีโอกาสได้ขย่ำเนื้อหวานๆอีกเป็นแน่ ครั้นจะดักฉุดตรงนี้ก็คงไม่งาม กลางแจ้งแถมสว่างจ้าเกิดใครมาเห็นคงยุ่ง จะล่อให้กลับไปรังหมาป่าด้วย หนูน้อยก็คงไม่ยอม เห็นทีคงต้องไปดักรอที่บ้านยายแมกซ์นั่นแหละ ความคิดอันร้ายกาจของเจ้าหมาป่าจึงโลดแล่นในทันที

คชาชอบนารุโตะนิใช่ไหม พี่เห็นลายผ้าคลุมกล่องข้าวเมื่อกี้”

อะ อื้ม ใช่ ทำไมเหรอ”

หนุ่มน้อยหมวกแดงรู้สึกงงงวยกับการเปลี่ยนเรื่องกระทันหันของเจ้าหมาป่า จากที่ทำให้เค้าหน้าแดงอยู่ดีๆก็กลับมาคุยเรื่องนารูโตะเสียอย่างนั้น

เจ้าหมาป่าแอบยิ้มอย่างเจ้าเลห์ก่อนจะพูดว่า

ญาติพี่เปิดร้านขายของเล่นตรงชายป่าด้านนู้นอ่ะ ไม่อยากแวะไปดูหน่อยเหรอ พึ่งเอาของเล่นนารูโตะมาลงใหม่เพียบ มีหนังสือการ์ตูนเล่มล่าสุดด้วยน๊า”

ไม่ได้หรอกจ้ะพี่เต๋า เดี๋ยวคุณยายหิวแย่เลย เวลาแกหิวยิ่งชอบจับคชาฟัดจนตัวลายทั้งตัวเลยอ่ะ ชาจักกะจี๋”

เจ้าเต๋าออกจะแปลกใจนิดหน่อยว่ายายประเภทไหนกันที่จับหลานฟัดจน”ตัวลาย” แต่เอาเถอะ ตอนนี้เขาไม่มีเวลาจะมาสนใจเรื่องจุกจิก สมองควรทำงานว่องไวในการหาทางหว่านล้อมหนูน้อย

เอางี้ เดี๋ยวพี่เอากับข้าวไปส่งให้คุณยายก่อน คชาก็แวะไปดูก็แล้วกัน อ่ะ พี่ให้เงินเอาไปซื้อนะ”(มีความป๋า)

เต๋ายัดถุงเงินสีแดงอ้วนๆใส่มือของคชา พร้อมผิวปากเรียกเจ้าชิโร่ สมุนคู่ใจให้ช่วยนำทาง

แต่....พี่เต๋าจะรู้จักบ้านคุณยายเหรอจ้ะ แล้วคุณยายจะไม่ว่าคชาเหรอ”

โอ้ย บ้านยายแมกซ์ขี้เมาที่เอะอะก็เดินเข้าป่านั่นใช่ไหม พี่รู้จักมัน เอ้ย!ท่านดี เดี๋ยวพี่ดูแลเองหน่า ไปเหอะ”

เต๋าเอามือดันหลังน้องให้ยอมไปกับชิโร่ที่ยืนรออยู่ เต๋าทำหน้ากระหยิมยิ้มย่องที่น้องหนูน้อยหมวกแดงยอมเดินตามง่ายๆไม่ขัดขืน หนูน้อยหมวกแดงไม่ทันสังเกตและสงสัยอะไร เพราะเจ้าหนูกำลังคิดถึงเรื่องของเล่นนารูโตะพวกนี้อยู่

"แวะไปดูแป๊บเดียว คงไม่เสียเวลามากหรอกมั้ง แล้วที่สำคัญคุณยายก็อาจจะอยากเล่นด้วยก็ได้(เหรอออ)"

คิดได้ดังนั้น หนูน้อยหมวกแดงจึงวิ่งกระโดดโลดเต้นตามเจ้าชิโร่ไปด้วยความร่าเริง....(ล่อได้ด้วยของเล่น)







ส่วนเจ้าหมาป่าเมื่อมันได้ยินว่ายายของหนูน้อยหมวกแดงคือยายแมกซ์ขี้เมาประจำหมู่บ้านซึ่งเขาคุ้นเคยเป็นอย่างดีเพราะชอบทะเลาะแย่งคิวร้านลาบกันเป็นประจำ มันก็คิดจะใช้โอกาสนี้แก้แค้นด้วยการงาบหลานสุดที่รักไปกินในคราเดียว

คชาบอกว่าบอกว่ายายกำลังไม่สบาย จะต้องไม่มีเรี่ยวแรงอะไรที่จะต่อสู้เราได้แน่ๆ แล้วพอจัดการไอ้แมกซ์เรียบร้อยแล้วแล้ว ทีนี้ก็ดักรอ แล้ว”กิน”หนูน้อยหมวกแดงทีหลัง..เห่อๆๆๆๆๆๆๆๆ "

มันคว้าตะกร้าที่หนูน้อยหมวกแดงทิ้งไว้แล้วรีบวิ่งไปที่บ้านของคุณยายที่นอนป่วยอยู่ทันที และเมื่อมันมาถึงก็เคาะประตูร้องเรียกแถมทำเสียงเลียนแบบหนูน้อยหมวกแดง

ยาย...คุณยายจ๋า เปิดประตูให้หนูหน่อย นี่หนูน้อยหมวกแดงเองจ้า.. เปิดประตูให้หน่อยสิจ๊ะ...”ติดจะแหบไปนิด แต่ก็เอาหน่า

คุณยายที่อยู่ในบ้านก็เชื่อสนิทว่าเป็นเสียงของหลานจริง ๆเสียด้วย(นี่ก็โง่)แต่พอคุณยายเดินกระย่องกระแย่งมาเปิดประตูเพื่อรับ หลานรักเข้าเท่านั้นเอง...

เฮ้ย ไอ้เต๋า เอ็งมาทำไมวะ เสือกมาทำเสียงสะดิ้งอีก น่าขนลุกชิบหาย”

ไรวะ นี่กุได้ยินว่ามึงป่วยก็อุตส่าห์มาเยี่ยม จะแดกไหมข้าวหะ”

ยายแม็กซ์ยิ่งรู้สึกขนลุกขนพองขึ้นไปอีกเมื่อได้ยินว่าคู่กัดเบอร์หนึ่งของตัวเองเอาอาหารมาเยี่ยม แต่พอเหลือบไปเห็นตระกร้าอาหารพร้อมผ้าคลุมสีเขียวลายนารูโตะของหนูน้อยหมวกแดงสุดที่รักและก็ตื่นตระหนก

ไอ้หมาป่าเจ้าเล่ห์ เอ็งทำอะไรน้องคชาของข้า”

น้องคชาสบายดี แต่คงไม่ใช่น้องคชาของเอ็งหรอก เพราะเค้ากำลังจะกลายเป็นน้องคชาของข้าต่างหากละโว้ยยยย อะนี่ เอาโหลยาดองไปย้อมใจซะ”

เจ้าหมาป่ายัดเยียดโหลยาดองให้ยายแมกซ์พร้อมกับทำหน้าเย้ยหยัน ส่วนยายแมกซ์ถึงจะโมโหที่ไอ้หมาป่าวายร้ายมาลูบคมยุ่มย่ามกับคนของตนถึงถิ่น แต่ก็ยอมรับโหลยาดองมาถือแต่โดยดี

เฮ้ย!เอ็งก็แก้ผ้ามาให้ข้ายืมหน่อยดิ”

ห๊า เอ็ง…..ตาบ๊าาาา ชอบเค้าก็ไม่บอกอ่ะ อิๆๆๆคิกๆๆ”

คิกๆพ่อง กูไม่ได้พิวาเมิ๊งงงง กุจะยืมมาใส่ล่อหลานเมิงเฉยๆ”

เฮ้ย กูไม่ให้โว้ย เอ็งอย่าคิดว่าจะมาขโมยน้องคชาไปจากอ้อมอกข้าง่ายๆนะเฟ้ย ข้าเฝ้าทะนุถนอมมาแต่เล็กแต่น้อย ข้าไม่ให้!”

เอ่อ ให้มันรู้กันไปว่าใครจะได้เจ้าหนูมาครอง

  แต่เพราะยายแม็กซ์กำลังป่วย เรียวแรงก็ร่อยหรอ แถมยังต้องคอยถือโหลเหล้าดองยาอีก(หวงมาก) คุณยายก็เลยพลาดท่าเสียทีโดนเจ้าหมาป่าจับแก้ผ้าจนเหลือเเค่กางเกงลิงตัวเดียวแล้วลากลงไปขังห้องใต้ดินง่ายๆ

อยู่ในนี้แหละ อะนี่ กระดาษกับดินสอ เขียนต้นฉบับส่งให้ทันกับเค้าบ้าง ต้องให้บ..มาคอยทวงอยู่เรื่อย”

เจ้าหมาป่าไม่ได้ใจร้ายเสียทีเดียว ก่อนปิดประตูยังอุตส่าห์แบ่งลาบก้อยกับข้าวเหนียวให้อย่างละครึ่งห่อ แถมด้วยกระบะมะขามป้อมไว้ให้ยายแม็กซ์ได้ใช้กินแกล้มเหล้าย้อมใจยามที่ต้องทนฟังเสียงเค้า”กิน”หนูน้อยอยู่ข้างบนโดยที่ตัวเองทำอะไรไม่ได้เลย หุๆ

ไอ้เต๋า เดี๋ยว”

เตียงเอ็งก็น่านอนจังวะ เสียเเต่เหม็นสาบกลิ่นเอ็งไปสักหน่อย เเต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็มีเด็กตัวหอมๆมาให้ข้าฟัดละ ข้าสุขใจจริงโว้ยยย ไปละนะ”

มึ๊ง!!”

เจ้าหมาป่าขัดประตูเสียแน่นสนิท ก่อนจะเดินผิวปากอย่างอารมณ์ดีกลับขึ้นมาบนบ้าน หลังจากที่เจ้าหมาป่าแอบชิมลาบก้อยที่เหลือกับข้าวเหนียวปั้นโต เปลี่ยนผ้าปูที่นอนชุดใหม่เพราะเค้าทนสูดกลิ่นของยายแม็กซ์ไม่ไหว เจ้าหมาป่าเจ้าเล่ห์ก็จัดการถอดเสื้อผ้าของตัวเองออก สวมหมวก สวมแว่นตา ของคุณยายแล้วกระโดดขึ้นเตียง เอาผ้าห่มคลุมตัวของมันไว้ แล้วมันก็นอนรอหนูน้อยหมวกแดง ที่จะมาถึงอย่างใจเย็น

เด็กน้อยนั่นมันเชื่อคนง่าย จะต้องนึกว่าข้าคือยายของมันจริงๆอย่างแน่นอน และเมื่อมันเดินเข้ามาใกล้ ๆ ก็จับมันกินได้อย่างง่าย ๆ เห่อๆๆๆๆ”

ส่วนคชานั้น หลังจากใช้เงินในถุงจนเกือบหมดก็หอบถุงสารพัดของเล่นกะจะมาอวดคุณยายที่บ้าน ก็เดินร้องเพลงร่าเริงเลียบบึงอ้อมมาตามเส้นทางอันคุ้นเคยเพื่อไปบ้านคุณยายที่รัก

และเพียงไม่นาน เวลาที่มันรอคอยก็มาถึง เมื่อมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น

ก๊อก ก๊อก ก๊อก”

ตามมาด้วยเสียงเรียกของหนูน้อยหมวกแดง

คุณยายจ๋า อยู่หรือเปล่า

สักพักก็มีเสียงตอบกลับมาว่า

อยู่หลาน ยายอยู่ในห้องนอนแน่ะ เข้ามาสิ

หนูน้อยหมวกแดงจึงเดินเข้ามาที่เตียงของคุณยาย หนูน้อยหมวกแดงพนมมือไหว้คุณยายของเธอ ด้วยความเคารพและกล่าวว่า

หวัดดีจ้า คุณยาย”

คุณยายตัวปลอม หรือเจ้าหมาป่ายกมือรับไหว้หนูน้อยหมวกแดง แล้วหนูน้อยหมวกแดง ก็สังเกตเห็นแขนที่ยาว และเต็มไปด้วยขนยาว ๆ ของคุณยาย ก็ถามขึ้น ด้วยความสงสัยว่า

คุณยายจ๋า ทำไมแขนของคุณยายถึงยาวแล้วก็มี ขนละจ๊ะ”

เจ้าหมาป่าตอบว่า

ที่ขนของยายยาวแล้วก็มีขน ก็เพราะยาย เอาไว้กอดหลานให้ื่นใจไงจ๊ะ “ (รากฎว่าเจ้าหนูโง่กว่ายายไปอีก)

 แล้วหนูน้อยหมวกแดงก็เห็นหูที่ยาวของคุณยาย ก็เลยถามขึ้นด้วยความแปลกใจอีกว่า

คุณยายจ๋า ทำไมหูของคุณยายถึงยาวอย่างนั้นละจ๊ะ”

เจ้าหมาป่าเริ่มจะหงุดหงิด จึงพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นักว่า ทำไมมันงัวงี้ฟะ

ยายก็.. เอาไว้ฟังเสียงหลานให้ชัดๆนะสิ”

แต่หนูน้อยหมวกแดงยังไม่คลายความสงสัย เมื่อเธอเหลือบไปเห็นเขี้ยวที่ยาวและคมวับของคุณยายของเธอ เธอเกิดความกลัวจึงค่อย ๆ ถอยออกและถามด้วยเสียงสั่น ๆ ว่า

ละ...แล้ว.. ทำไม ฟันกับปากของคุณยายถึงได้ยาวแล้วก็น่ากลัวอย่างนั้นละจ๊ะ”

เจ้าหมาป่าหมดความอดทนเพียงแค่นั้นเพราะเค้าเองก็รู้สึกจิตหงุดเงี้ยวไม่ใช่น้อย ก็เจ้าหนูหอมน่ากินเสียขนาดนี้

มันแยกเขี้ยวที่ขาวเป็นมันวับ ของมันแล้วตอบว่า

““เหอ ๆๆๆ ที่ฟันกับปากมันยาวและใหญ่อย่างนี้น่ะน้า..หนูน้อยหมวกแดงเอ๋ย ก็...เอาไว้กินเจ้าอย่างนี้ยังไงเล่า เหอๆๆๆ”

นั่นมัน.... พี่เต๋า!!”







เมื่อเจ้าหมาป่าตัวร้ายพูดจบก็กระโจนออกมาจากผ้าห่ม พร้อมทั้งกับย่างสามขุม ตรงเข้าประชิดจนติดตัวของหนูน้อยหมวกแดงทันที

มันหัวเราะเสียงดังลั่น แล้วตรงเข้าจับหนูน้อยหมวกแดงโยนขึ้นไปบนเตียง ก่อนจะกระโจนขึ้นทาบทับจับหนูน้อยตรึงแขนไว้แน่นกับเตียง

น่ากิน น่ากินไปทั้งตัวเลย คชาของพี่ ขอพี่ชิมหน่อยนะคนดี”

เจ้าหมาป่าใช้ฟันคมกัดกระชากเสื้อเชิ๊ตตัวบางจนกระดุมขาดกระเด็นเผยให้เห็นแผ่นอกขาวผ่องกับเม็ดทับทิมน้อยๆทั้งสอง เจ้าหมาป่าลากลิ้นชิมเนื้อหยุ่นหวานสลับไปมาทั้งสองข้างอย่างามใจ ใบหน้าน่ารักที่โผล่พ้นออกมาจากฮูสีแดงเบะปากร้องไห้ด้วยความกลัว

ฮื้ออออ เจ้าหมาป่าใจร้าย อุตส่าห์ไว้ใจกัน ดันมาทำร้ายกันได้ลงคอ”

เจ้าหมาป่าไม่สนใจฟังเสียงทัดทานหรือมือเล็กที่ตบตีเขา มันรวบข้อมือน้อยของคชาสองข้างไว้ในมือ แล้วจัดการปลดกางเกงขาสั้นตัวจ้อยของคชาและเสื้อผ้าของตัวเองออกในคราวเดียวจนล่อนจ้อน

เด็กน้อยทั้งตกใจ ทั้งเสียใจและเขินอาย แก้มกลมเปื้อนน้ำตาแดงปรั่งสีเลือดฝาด ปากน้อยๆเว้าวอนขอร้องให้พี่หมาป่าหยุดรังแกตัวเองเสียที

โถ เด็กน้อย ไม่ต้องกลัวพี่หรอกนะคนดี พี่จะทำให้คชามีความสุขนะ”

เจ้าหมาป่ามองสำรวจร่างขาวราวกับหิมะ มันลูบไล้ผิวเนียนละเอียด พยายามหักห้ามใจไม่ให้ทำรุนแรงกับเหยือตรงหน้า จะกินของอร่อย มันต้องใจเย็น

เจ้าหมาป่าประคองใบหน้าสวยขึ้นรับจุมพิตอันดูดดื่ม หนูน้อยหมวดแดงมึนเมากับรสจูบของเจ้าหมาป่าวายร้ายเสียแล้ว จากเสียงอ้อนวอนเหลือแค่เพียงเสียงครางอื้อในลำคอ มือที่เคยผลัไสก็กลับขยุเสื้อของคนข้างบนเสียแน่น เมื่อชิมริมฝีปากอิ่มจนพอใจแล้ว จึงผละออกจากเด็กน้อยแสนหวานอร่อยตรงหน้า ไม่ใช่เพราะมันคิดจะหยุดหรอกนะ แต่เพราะมันอยากจะให้หนูน้อยได้พักหายใจหายคอต่างห่าง

คะ คุณหมาป่า...”

เรียกพี่เต๋าสิครับ”

เจ้าหมาป่าก้มมองหนูน้อยหมวกแดงที่นอนอ่อนยวบบนเตียงนุ่ม ตาปรือราวกับโดนฤทธิ์สุรา แก้มใสสีแดงระเรื่อ ริมฝีปากอิ่มแดงสดจากการบดขยี้เผยอน้อยๆชวนให้มันอยากจะชิมซ้ำแล้วซ้ำอีก

พี่เต๋าจ๋า ปล่อยชาไปนะ ชาอยากกลับบ้านไปหาหมั่มม๊าแย้ววว ฮื้อ...”

คนดีของพี่ ขอพี่หอมพี่กอดอีกนิดนึงแล้วเดี๋ยวพี่จะให้กลับบ้านนะ”

เจ้าหมาป่าสุดจะทนกับความน่ารักของคนตรงหน้า ใบหน้าใหญ่ก้มซุกไซ้ซอกคอนวล บ้างก็อ้างับเนื้ออ่อนๆเข้าไปเต็มคำด้วยสัญชาตญาณดิบของหมาป่าในยามล่าเหยื่อ เด็กน้อยสะดุ้งโหยงทุกครั้งที่ฟันคมฝังเข้าเนื้ออ่อนจนเป็นรอยแดง แต่เมื่อใดที่น้องน้อยร้องจ้าด้วยความเจ็บเจ้าหมาป่าก็สลับโหมดทำตัวอ่อนโยนกับน้องเรื่อยไป บ้างก็บดบี้ยอดอกน้อยๆของคชาจนเด็กไม่ประสาเผลอร้องครางไปกับรสสัมผัสแปลกใหม่นั้น

ลิ้นสากยาวลากผ่านแผ่นอกบางเรื่อยไปตามหน้าท้องก่อนจะตะหวัดหยอกล้อกับหนอน้อยที่ชมพูนุ่มนิ่มที่เริ่มจะพองตัวขู่ฟ่อเจ้าหมาป่าวายร้ายอยู่ในที

พี่เต๋าจ๋า อย่าทำร้ายหนอนหนู อ๊ะ!”

คชาเอามือกุมจุ๊ดจู๋พยายามปกป้องมันจากการรังแกของไอ้หมาป่าวายร้าย แต่เจ้าหมาป่าก็ดื้อแพแกะมือน้อยๆออกจนได้

นอนเฉยๆครับ ถ้าดื้อกับพี่ พี่จะกัดเจ้าหนอนจริงๆด้วย”

คชาร้องเสียงหลงห้ามามเจ้าหมาป่าอันธพาลเสียชุลมุน หม่าม๊าสอนเค้าเสมอว่า หนอนน้อยของคชานั้น เป็นของสำคัญมาก และคชาจะต้องไม่ให้ใครดูนอกจากคนที่ทำให้คชารักจนรู้สึกเหมือนมีผีเสื้อบินอยู่ในท้องเท่านั้น

แต่คุณหมาป่าก็ทำให้คชารู้สึกวูบวาบนะ คงใช้ได้แหละเน๊อะ” หนูน้อยหมวกแดงคิดในใจ

เจ้าหมาป่าแกะมือน้อยที่กอบกุมเจ้าหนอนออกก่อนจะแลบลิ้นยาวโลมเลียลากตั่งแต่ท้องน้อยลงมาถึงเจ้าหนอนตัวสำคัญที่เริ่มขยับยุกยิกอยู่ไม่เป็นสุขเสียแล้ว

อื้มมมม ช่างอร่อยเสียจริงๆเลย หอมหวานที่สุดเลย หนูน้อยหมวกแดงของพี่”

อ๊า..พี่เต๋า พี่เต๋าจ๋า”

ลิ้นซุกซนของเจ้าหมาป่าะหวัดรับลูกกระพรวนน้อยของคชาเข้าปาก ดูดคลึงเพียงเล็กน้อยแล้วก็ปล่อยออก คชาสัมผัสความเสียวซ่านจนนิ้วเท้าน้อยๆบิดงอ มือเล็กกำหูนุ่มทั้งสองข้างของเต๋าแน่น ไม่รู้ว่าควรจะผลักไสหรือรั้งไว้ดี ยิ่งพอเต๋าย้ายตำแหน่งลงไปหยอกล้อกับปากทางแคบๆข้างหลังด้วยแล้ว...

อ๊ะ พี่เต๋าจ๋า อย่าเลียตรงนั้น อื๊ออออ”

ตรงนี้ของคชาน่ารักจังเลย พี่หิว ให้พี่กินหน่อยนะ”

พะ พี่เต๋าจ๋า ถ้าหิวก็...กินสตรอว์เบอร์รี่ี่ของคชาก็ได้นะ คชายกให้หมดตะกร้าเลย แต่อย่ากินก้นคชาเลยนะจ้ะ”

เด็กน้อยครางเสียงอ๋อย เต๋าอดขำกับความไร้เดียงสาของหนูน้อยหมวกแดงไม่ได้ มันเลยเอื้อมมือไปหยิบสตรอว์เบอร์รี่ี่ลูกโตจากในตะกร้าขึ้นมาสองลูก

ลูกเล็กนี่ พี่ให้คชากิน “

เต๋างับสตรอว์เบอร์รี่ี่ไว้ในปากเพื่อที่จะได้ป้อนให้คนร่างเล็กตรงหน้า ถือว่าตอบแทนที่เค้าฉกฉวยชิมมันจากปากสวยเมื่อตอนเที่ยง คชาหลับตาพริ้มรับรสหวานและรอยจูบ

ส่วนลูกใหญ่นี่.........พี่จะกินเอง”

คชาคิดว่าประเดี๋ยวคงคงจะต้องได้ป้อนสตรอว์เบอร์รี่ี่แก่เจ้าหมาป่าด้วยปากอีกแน่ แต่เปล่าเลย เจ้าหมาป่ากลับยัดสตรอว์เบอร์รี่ี่ลูกเขื่องเข้าไปในช่องทางสีชมพูสวยที่พึ่งถูกรังแกด้วยลิ้นสากเมื่อครู่ แม้ช่องทางน้อยดูจะคับแคบ แต่เพราะน้ำลายของเจ้าหมาป่าที่ชุมโชกอยู่ตรงปากทาง สตรอว์เบอร์รี่ี่ผิวขลุขละก็ไถลลื่นเข้าไปได้อยู่ดี คชาตกใจหดเกรบีบรัดจนสตรอว์เบอร์รี่ี่เนื้อฉ่ำแทบไหลหลุดออกมาก น้ำหวานสีแดงไหลย้อยจากช่องทางน้อย

ชาไม่กินทางนี้ พี่เต๋าจ๋า ชาไม่เอาน๊าาาา”

แต่พี่อยากกินทางนี้นิ ตามใจพี่หน่อยนะ”

ลิ้นใหญ่ตวัดกินน้ำหวานจากปากทางนุ่ม บ้างก็ขยับไปหยอกล้อดูดเลียเจ้าหนอนน้อยด้วยเกรงว่ามันจะเหงา นิ้วซุกซนถูกสอดเข้าแทนที่ นิ้วแกร่งถ่างแทงบดบี้ผลสตรอว์เบอร์รี่ี่ข้างในเสียจนเละตุ้มเป๊ะ

อื้มมมม หวานมากเลยคชา อร่อยมาก กินเท่าไหร่ก็ไม่พอจริงๆเลยนูน้อยหมวกแดงของพี่”

อ๊ะ ตรงนั้น อ๊าๆๆๆ”

ตรงไหน ตรงนี้เหรอจ๊ะ”

เต๋าแกล้งกดผนังนุ่นภายในซ้ำๆ แต่ก็ยังคงจู่โจมส่วนอ่อนไหวข้างหน้าของคชาอย่างต่อเนื่อง จนในที่สุดคชาก็สุดจะกลั้น ปล่อยให้ความรู้สึกทั้งหมดทะลักเหมือนเขื่อนแตก ก่อนที่จะรู้สึกขาวโพลน ล่องลอยเบาหวิว แปลกๆแต่ก็มีความสุขมาก

ครั้งแรกเหรอคชา”

คชาผงกหัวน้อยๆทั้งที่ยังหลับตาพริ้ม เจ้าหมาป่าหัวเราะชอบใจในอากัปกิริยาที่น่ารักนั้น

มีอะไรที่จะต้องเรียนรู้อีกเยอะเลยนะ เดี๋ยวพี่จะค่อยๆสอน แต่ตอนนี้ขอพี่กินคชาก่อนนะ”

หนูน้อยหมวกแดงไม่เข้าใจว่าพี่หมาป่าหมายถึงอะไร เด็กน้อยเปิดเปลือกตาขึ้นช้าๆ ก่อนจะต้องกระพริบตาถี่ๆเมื่อเห็นฮอตดอกอันเขื่องจ่ออยู่ที่ปากทางน้อยของตัวเอง

คะ คุณหมาป่าจ๋า ชากลัว ต้องเจ็บแน่ๆเลย ฮื้อๆๆๆ อย่ากินชาเลยนะจ๊ะ”

คชาอ้อนวอนเจ้าหมาป่าเสียงอ๋อย เจ้าหมาป่ากอดน้องไว้แนบอก ระดมจูบจนทัใบหน้าหวาน แล้วกระซิบเสีบงแผ่วเบา

ไม่ต้องกลัว เจ็บเดี๋ยวเดียว เหมือนมดกัด เดี๋ยวก็จะชอบเองนะ อย่าเกร

เด็กดี อย่างงั้น”

เจ้าหมาป่าใจร้ายเสือกไถฮอทดอกท่อนเบ้งเข้าปากทางแคบจนได้ และก็จริงอย่างที่มันว่า เจ็บแป๊บเดียวแล้วกลับกลายความเสียวซ่านอย่างที่สุด เมื่ออะไรดูจะเข้าที่เข้าทางดี เจ้าหมาป่าหื่นกระหายก็ขยับเดินหน้าเต็มกำลังกระแทกกระทั้งสะโพกอวบจนเตียงคลอน เสียงครางดังสนั่นหวั่นไหวก้องไปจนทั่วทั้งป่าเลยทีเดียว







หนูน้อยหมวกแดงอยากลองขี่พี่หมาป่าไหม”

ไม่ทันที่หนูน้อยหมวกแดงจะได้ตอบ เจ้าหมาป่าพลิกตัวลงด้วยล่างแล้วให้คชาเป็นฝ่ายควบขี่เอง

ตอนแรกคชาก็ไม่รู้ว่าต้องทำยังไง แต่เพราะเขาเป็นเด็กหัวไว ประกอบกับมือใหญ่ที่จับเอวบางของหนูน้อยหมวกแดงให้โยกขึ้นลงตามใจปรานา ผลก็คือความสุขอย่างที่สุดของคนทั้งคู่นั่นเอง

อ๊าๆๆๆๆคุณหมาป่าเบาๆ”

พี่เบาไม่ไหวแล้วคชา อีกนิดเดียว นะ ซื๊ดดดด”

หนูน้อยหมวกแดงตั้งหน้าตั้งตาขี่คุณหมาป่าอย่างขมักเขม้น เจ้าหนอนน้อยพองตัวตัวร่าเริงเสียดไถอยู่กับขนหยาบบนท้องน้อยของคนตัวโตข้างล่าง คุณหมาป่าดูจะเป็นห่วงเจ้าหนอนน้อยจังใช้มือใหญ่ประคองไว้ ช่วยรูดรั้งให้เจ้าหนอนบรรเทาอาการตึงเครียดแถมยังช่วยกำกับจังหวะไปด้วยในตัว

อ๊ะๆๆๆ พี่เต๋า พี่เต๋าจ๋า”

อื๊มมม คชา อ๊า....”

หนูน้อยหมวกแดงร่วงผลอยลงไปในอ้อมอกใหญ่ของคนเบื้องล่าง ใบหน้าสวยเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ หัวใจดวงน้อยเต้นประสานกับเจ้าสัตว์ร้ายที่พึ่ง “กิน”ตัวเองจนเต็มคราบ

ถูกกินนี่มันเป็นอย่างงี้นี่เอง เหนื่อยชะมัดเลย

ความคิดสุดท้ายของเด็กน้อยก่อนที่เปลือกตาสวยจะปิดพริ้ม คชาหลับฝันหวานถึงสวนสตรอว์เบอร์รี่ี่อันกว้างใหญ่ที่เขากับเจ้าหมาป่าช่วยกันเก็บกินอย่างไม่รู้จักอิ่ม

ส่วนเจ้าหมาป่าตัวแสบนั้น ด้วยความตระกละเกินตัว กินลาบกับข้าวเหนียวปั้นใหญ่ แถมยังกินหนูน้อยหมวกแดงสอดไส้สตรอว์เบอร์รี่ี่อีก มันจึงเกิดหนักท้องเป็นอย่างมาก และเป็นเหตุทำให้มันเกิดความง่วงอยากนอนขึ้นมาในทันทีทันใด มันหลับสนิทแถมยังกรนเสียจนเสียงดังลั่นสนั่นหวั่นไหว

คร๊อก..ฟี่...คร๊อก...ฟี้ "

ทั้งสองไม่รู้ว่าในขณะที่ทั้งคู่เริงรักกันอยู่นั้น นายพรานที่เป็นเพื่อนบ้านเดินผ่านมาพอดี เมื่อเขาได้ยินเสียงหนูน้อยหมวกแดงร้องครางอย่างทรมานจริงรีบวิ่งมาดู นายพรานส่องหน้าต่างเข้าไปในห้องนอนของยายแม็กซ์ ก็เห็นน้อยหมวดแดงขี่คุณหมาป่า ไม่ได้มีท่าทีเจ็บปวดแถมออกจะมีความสุขเสียด้วยซ้ำ จึงเดินละไป แต่ก็มานึกเป็นห่วงยายแม็กซ์ว่าหายไปไหน แล้วทำไมสองคนนี้ถึงอยู่บนเตียงยายแม็กซ์เล่า

เขาจึงย้อนกลับไป เมื่อพรานป่าได้ยินเสียงร้องไห้ฟูมฟายออกมาจากห้องใต้ดินของคุณยาย แต่เมื่อเขาพยายามฟังดู ก็เกิดความสงสัย

เสียงน่ะมันดังออกมาจากบ้านคุณยายอย่างแน่นอน แต่..เอ๊ะ...ทำไมถึงดังมาจากห้องใต้ดินล่ะ...เกิดอะไรหรือปล่าว น่าสงสัยจัง?? "

 นายพรานป่าด้วยความสงสัยเป็นอย่างมาก จึงแอบย่องเข้าไปในบ้านอย่างเงียบเชียบ







  ภายในบ้านไม่มีแม้แต่เงาของคุณยายเลยสักนิด นอกจากหมาป่าตัวหนึ่ง กำลังนอนพุงกาง และที่สำคัญหนูน้อยผิวขาวๆแก้มแดงๆนอนเปลื่อยเปล่าทาบทับอยู่บนอกของมันนั่นเอง

นายพรานแอบย่องลงบันได้ห้องใต้ดินช้าๆ

ยายแม็กซ์อยู่นี่หรือปล่าว”

ช่วยด้วย ช่วยด้วย " ใช่แล้วมันเป็นเสียงร้องของคุณยายที่พยายามร้องเรียกให้ใครมาช่วยอยู่ในห้องใต้ดิน นั่นเอง







นายพรานป่าฟังจนแน่ชัดแล้วจึงรีบเปิดประตู ช่วยคุณยายแม็กซ์ออกมาได้ทัน

ไอ้เต๋า มึ๊ง”

ยายแม็กซ์จับด้ามไม้กวาดรีบผลุนผลันขึ้นบันไดไปหวังจะหวดเจ้าหมาป่าสักยก แต่นายพรานคว้าไว้เสียก่อน

เดี๋ยวยาย เห็นทีจะไม่ทันการแล้ว คชาโดนกินจนหมดแรงหลับผลอยอยู่กับมันโน้น”

หนอยแหนะ ไอ้เต๋าข้าเฝ้าดูอยู่มานานหลายปี ดันมาแย่งของข้าไปเสียนี่ และที่แย่ที่สุด นั่นเตียงข้า”

ยายแม็กซ์รู้สึกคับแค้น จึงวางแผนจะแก้เผ็ดเจ้าหมาป่าตัวแสบ

เขาแอบย่องไปสะกิดเจ้าหนูที่นอนตัวล่อนจ้อนขาวอมชมพูอยู่บนอกของเจ้าหมาป่าตัวเเสบเบาๆ

อะ ยายจ๋า”

จุ๊ๆๆ”

คชางับปากโดยไว ตอนเเรกเค้าก็ง่วงอยู่ เเต่พอนึกขึ้นได้ว่าเค้านอนเปลือยโชว์ก้นกลมอมชมพูอย่างกะลูกพีชต่อหน้าคุณยายที่หน้าเหี้ยมนิดๆกับนายพรานคนข้างบ้านแล้ว เค้าก็รู้สึกอายหน่อยๆ ตาสว่างเลยทีเดียว

ค่อยๆลุก อย่าให้มันตื่นเชียวนะคชา”

ยายจ๋า ยายจะทำอะไรพี่หมาป่าเหรอ

คชามองยายเเมกซ์และลูกสมุน(?!)ด้วยความงงงุน คุณยายเอาเชือกมาทำไมกันนะ

ไอ้หมาป่าเลว ไอ้หมาป่าชั่ว อยากนอนนักใช่ไหม เตียงกูเนี่ย ได้ มึงได้นอนสมใจเเน่”

ยายเเมกซ์บ่นงึมงำเหมือนคนวิปลาส ขณะเดียวกันก็จับข้อมือข้อเท้าของเจ้าหมาป่าตัวเเสบ ที่กำลังนอนหลับอยู่อย่างไม่รู้ตัวติดไว้กับเสาเตียงมือเป็นระวิง

เอ้า จะนั่งป๊อีกนานไหมคชา เเต่งตัวเข้าสิหลาน เร็วเข้า”

คชาคลานลงเตียงอย่างงงไม่หาย มือน้อยเอื้อมหยิบเสื้อคลุมสีเเดงเเละกางเกงตัวน้อยที่เจ้าหมาป่าตัวร้ายถอดขว้างลงพื้นไม่ใยดีก่อนหน้า

เอาเสื้อมันมาด้วย แหมะ เสื้อหนังเปรียวขนาดนี้ ถูกใจข้าเสียจริงๆ หึๆๆ”

ยายเเมกซ์ที่ตอนนี้จับเจ้าหมาป่ามัดมือมัดเท้าจนสมใจเเล้ว ก็คว้าเอาเสื้อผ้าของเจ้าหมาป่ามาใส่ เเต่ไม่ใช่เเค่เสื้อผ้านะสิ หนูน้อยหมวกแดงเห็นยายเเมกซ์หยิบถุงเงินที่เจ้าหมาป่าพกไว้อีกหลายถุงไปด้วย เเล้วไหนจะสร้อยเเหวนนาฬิกาอีก

อวดรวยดีนักใช่ไหมมึง ด๊ายยยย ปะ คชา ไปกันได้ละ”

หะ หา ยายจ๋า เอ่ออออ แล้วพี่เต๋า…..”

ปล่อยมันนอนอยู่นิล่ะ ปะ”

แต่...ยายจ๋า หนู….”

กินราเม็งไหมคชา ยายเลี้ยง ยายมีเหรียญเยอะเเยะ เดี๋ยวซื้อของเล่นให้ด้วย ยายรวยเเล้ว”

อะ ไปๆ อิๆๆๆๆ"

ถึงจะเห็นอยู่จะๆว่ายาเพิ่คว้าถุงเหรียญนั่นมาจากผ้าผูกเอวของพี่เต๋าก็เถอะ เเต่ตอนนี้มันอยู่ในมือคุณยาย งั้นก็เป็นเหรียญของคุณยายสินะ แหม วันนี้เค้าโชคดีจัง มีคนเปย์ทั้งขึ้นทั้งล่อง

และเเล้วสองยายหลานพร้อมนายพรานจึงจากไปด้วยประการฉนี้ โดยไม่ลืมที่จะเปิดประตูทิ้งไว้ให้ลมโกรกเจ้าหมาป่าชีเปลือยถูกมัดอยู่บนเตียงให้หนาวเล่น นี่ยายเเมกซ์คิดไปไกลถึงขนาดว่า จะชวนเพื่อนฝูงในหมูบ้านมาดูฮอทดอกหมาป่าหื่นกามเล่นเลยทีเดียว คงขำขันกันไม่น้อย สะใจดีจัง

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า……...คิดจะงาบใครไม่ว่า อย่ามายุ่งกับหลานยายเเมกซ์ ระวังจะโดนรูดทรัพย์ไม่รู้ตัว55555



Saturday, July 2, 2016

TK Special ชีวิตหลังงานมงคล ตอนเจ้าบัวลอยลูกรัก

TK Special ชีวิตหลังงานมงคล ตอนเจ้าบัวลอยลูกรัก

สวัสดีครับ ผมคชาฮะ ตอนนี้พวกผมแต่งงานกันมาก็ปีกว่าแล้ว ชีวิตหลังแต่งงานราบรื่นดีครับ เต๋าออกไปทำงาน กลับบ้านตรงเวลาทุกวัน ส่วนผมก็เลี้ยงเจ้าบัวลอย ดูแลชิโร่ เก็บกวาดบ้านไป(เต๋ามันงก ไม่ยอมจ้างแม่บ้าน) ครอบครัวของเราสองคนก็ช่วยเหลือพวกเราเป็นอย่างดี วันไหนที่ผมต้องไปทำงาน ผมก็แวะเอาเจ้าบัวลอยไปฝากย่าฝากยายเลี้ยง เลี้ยงเก่งกว่าผมอีกฮะ ก็ผมมันคุณแม่มือใหม่นิ
แต่ละวัน กว่าจะเอาลูกเข้านอนได้ก็สายตัวแทบขาด เลี้ยงลูกนี่มันเหนื่อยอย่างงี้นี่เอง ผมนับถือหม่าม๊าเลย เลี้ยงมาได้ตั้งสองคน แถมทำงานไปด้วยอีก หัวถึงหมอนก็หลับเป็นตายแล้วผมน่ะ ต้องเก็บแรงไว้ตื่นให้นมลูก เปลี่ยนผ้าอ้อมกลางดึก
“ชา ชาจ๋า นอนแล้วเหรอ”
เฮ้อ นี่ก็อีกคน ไม่เคยปล่อยให้ผมได้นอนอย่างสงบเลยครับ
เต๋าที่พึ่งอาบน้ำเสร็จทิ้งตัวลงมาข้างหลัง กลิ่นสบู่หอมสะอาดแตะจมูก พร้อมทั้งวงแขนแข็งแกร่งที่เข้ามาโอบรัดผมจนจมอก มือปลาหมึกก็ยั๊วะเยี๊ยะอยู่กับก้นผมเนี่ย
“เต๋า คืนนี้ไม่ทำได้ไหม เลี้ยงลูกมาทั้งวัน เหนื่อยแล้ว”
“อะไร ยังไม่ได้ทำอะไรเลย ก็เห็นว่าเหนื่อยเลยจะนวดให้เนี่ย”
แหมะ มีทำฟึดฟัด
“มึงหมายถึงมือมึงที่ขยำสะโพกกูอยู่นี่อ่ะเหรอ ตรงนั้นมันมีจุดมีเส้นอะไรให้จับด้วยเหรอวะ”
“โธ่ ชา ก็คิดถึงนิ ขอชื่นใจหน่อยไม่ได้เหรอ
เต๋ากระชับวงแขนแน่นขึ้น จมูกโด่งเป็นสันก็ซุกไซ้นัวเนียอยู่ซอกคอผม มืออีกข้างล้วงไปลูบหน้าอกผมเบาๆ คิดว่า ถ้าผมไม่ทำอะไรสักอย่างในตอนนี้ ผมคงจะไม่ได้นอนอย่างสงบแน่ๆ
“เจอกันทุกวันจนจะเบื่อหน้ากันแล้วไหม จะคิดถึงอะไรอีก”
ผมพลิกตัว เอามือยันหน้าขาวๆของคนข้างๆออก
“ชาอ่ะ ก็เต๋าไม่ได้อยู่ด้วยนิ ไปทำงานมาทั้งวัน เหนื๊อยยยเหนื่อย แต่พอคิดถึงหน้าชากับลูกก็ฮึดขึ้นมา นี่ต้องหาค่านมค่าผ้าอ้อมให้เจ้าบัวลอยมัน ขอชื่นใจหน่อยไม่ได้เหรอ At love จุ๊บๆๆๆๆๆ”
ปีศาจจูบไล่ต้อนผมจนแทบจะตกเตียง สงสารเหมือนกันแฮะ ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทุกอย่างในบ้าน ออกไปทำงานตั้งแต่ไก่โห่ กลับมาอีกทีก็ตะวันตกดินแล้ว ยอมๆมันก็ได้เน๊อะ
เต๋าลากผมกลับมากลางเตียงแล้วคร่อมไว้ เมื่อก่อนตัวก็เท่ากันแท้ๆ เดี๋ยวนี้ทำไมมันตัวใหญ่จังวะ ช่างเหอะ จะมาคิดเรื่องขนาดตัวอะไรตอนนี้เล่า
“เมียใครน๊า....น่ารักจัง”
เต๋างับปลายจมูกผมเบาๆแล้วจึงจูบปากผมแบบเร็วๆ แว๊บเดียวเท่านั้น
“อะ พอใจละ”
เต๋าพลิกตัวกลับไปนอนที่เดิม ในขณะที่ผมลุกขึ้นโวยเสียงแหลม
“ห๊า แค่เนี้ย”
“อะไร คิดว่าจะอิ๊อ๊ะเหรอ แหมะ หื่นไม่ใช่เล่นนะเรา ดู ทำหน้าเสียดายอีก”
โว้ยยยย กูไม่ได้หื่นนะเฟ้ย นี่อุส่าห์เตรียมใจแล้วเชียว  แม่งเอ้ย
“โหย นี่ก็เหนื่อยมาจากข้างนอกละ แต่ถ้าแม่มึงอยากอิ๊อ๊ะ เดี๋ยวป๊าจัดให้ คิๆ”
ยังไม่ทันได้พูดได้ตอบอะไรสักคำ รู้ตัวอีกทีมันก็กดผมลงจมเตียง แล้วไม่ใช่แค่กดแต่ตัวนะ ปากก็กด ด้วยปากมันเนี่ย สอดลิ้นเข้ามาด้วย อี๋ๆๆๆ
เต๋าจูบบดเบียด ซุกไซ้ไปมาจนผมเคลิ้ม รู้ตัวอีกทีผมก็ไม่เหลือเสื้อผ้าติดตัวสักกะชิ้น ทีงี้เร็วเหลื๊อเกิน  =*=
“หน้าอกน้อยๆของชาช่า อะ! ไวต่อสัมผัสซะด้วย”
แล้วจะบี้ทำไมเล่า ไม่บี้ปล่าว แถมดูดเลียด้วย มันเสียวนะ
“อ๊ะๆ เต๋า ซื๊ดดด เบาๆ “
“ทำไมละจ๊ะ ให้นมลูกละเจ็บเหรอ อกแบนๆแบบนี้ยังมีน้ำนมอีกได้นะ ไม่น่าเชื่อเลย” *บีบๆ
“อย่าบีบสิเต๋า มันจะไหล”
“อะไรจะไหล”
“ก็นมไง”
“อ้าว! งั้นขอชิมหน่อยสิ เจ้าบัวลอยไม่ว่าร๊อก”
เต๋าดูดแรงขึ้นกว่าเดิม นิ้วก็บิดบี้ยอดอกอีกข้างอย่างเมามันส์ ส่วนผมก็ดิ้นพล่านไปสิครับ
“ตะ เต๋า พะ พอแล้ว เจ็บ ไม่ไหวแล้ว”
ผมตื่นตัวอย่างช่วยไม่ได้ เต๋าก็เหมือนรู้ ทำหน้าทะเล้น แกล้งเบียดแนบลงมาแล้วบดวนๆจนผมจะเสร็จอยู่แล้ว
“อะไร แค่นี้ก็เยิ้มแล้ว”
เต๋าขยับย้ายลงข้างล่าง เอามือประคองของผมแล้วใช้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้จับส่วนหัวบี้เล่นไปมา มันแกล้ง!
“มึงอ่ะ”
ผมถลึงตาใส่
“อ้อนก่อน พูดเพราะๆ”
 “ต๋าวววว เต๋าจ๋า เต๋าสุดหล่อค้าบบบบ”
“ค่อยน่ารักหน่อย อื้ม.... หวานจัง นมจืดนั่นเก็บไว้ให้ลูก  ป๊าขอกินนมข้นหวานละกัน”
เต๋าตวัดลิ้นเลียรอบๆแล้วปากอุ่นก็ครอบครองของผมไปทั้งอัน  แป๊บเดียวผมก็เสร็จแล้ว
“โห ชา เสร็จเร็วมาก”
“ฮื้อออออๆๆๆ”
เอ้อ ไม่ต้องย้ำ! ผมงี้อาย เอามือปิดหน้าแล้วเนี่ย
“โอ๋ๆ ไม่เป็นไรหน่า อยู่กันมาขนาดนี้แล้วจะอายอะไรอีก ไหนๆ”
เต๋าดึงมือผมออก หยิกแก้มผมทีนึงแล้วก้มลงมาจูบ ครับ ด้วยปากที่พึ่งอมของผมนั่นแหละ
“สบายตัวรึยัง “
“อืม”
“งั้นตาเต๋าบ้างนะ”
เต๋าจับขาผมยกแยกออกแล้วเข้าแทรกตรงกลาง ส่วนนั้นของเต๋าที่เขี่ยกระทุ้งอยู่ปากช่องทางแคบๆนั่นร้อนจนผมรู้สึกได้ เต๋าเทหล่อลื่นใส่มือ ชะโลมของตัวเองแล้วสอดนิ้วลื่นๆเข้าๆออกๆช่วยขยายให้ผม
“มาทำน้องให้เจ้าบัวลอยกันเถอะ”
“อื้ม”
ผมเผลอผงกหัวเบาๆ (เพื่อ?) เต๋ายิ้มหวาน จูบหน้าผากผมทีนึงก่อนจะดันตัวเข้ามา.......


แง๊ๆๆๆๆๆๆ
“เฮ้ย! เจ้าบัวลอย”
ผมเผลอผลักเต๋าซะกระเด็น หยิบเสื้อคลุมมาใส่ลวกๆแล้วรีบสาวเท้าไวจี๋ไปห้องลูก ไม่หิวนมก็ผ้าอ้อมเปียกนั่นแหละ หรือตัวอะไรมากัดลูกกูปล่าววะ
“โอ๋ๆ บัวลอย ไม่ร้องนะลูก จะเอาอะไรคับ”
เด็กน้อยในอ้อมกอดหยุดร้องทันทีที่เห็นหน้าแม่  มือก็ไขว่คว้าปัดป่ายไปมาบริเวณหน้าอกผม คือหิวนมนั่นเอง
ผมนั่งลงบนเก้าอี้โยกเตี้ยๆข้างๆเตียงลูก ดึงเสื้อคลุมลงข้างนึง แล้วปล่อยให้เจ้าบัวลอยดื่มกินนมเท่าที่อกแบนๆจะมีให้เค้ากินนั่นแหละ ที่เหลือก็กินนมกระป๋องไปนะลูกเอ้ย

Tao’s mind
ผมคว้ากางเกงนอนขึ้นมาสวมอย่างหงุดหงิด ความสุขอยู่แค่เอื้อมแท้ๆ ลูกดันร้องซะได้ แต่เอาเหอะ ก็ยังดีกว่าทำไปกลางทางแล้วโดนขัดจังหวะ คงจะทุลักทุเลน่าดู
ผมเดินตามคชาไป แสงไฟสีเหลืองอ่อนสาดออกมาให้พอเห็นทาง นับถือคชาจริงๆ ทางมืดๆก็เดินได้นะ  เดี๋ยวก็ชนนู้นชนนี่กันพอดี
คชาอุ้มลูกแนบอก นั่งโยกเก้าอี้โยกสีฟ้าอ่อนช้าๆฮัมทำนองร้องเพลงกล่อมลูกไปด้วย
“ตาหนูร้องทำไมอ่ะชา”
“หิว”
ชาตอบผมสั้นๆโดยที่ไม่แม้แต่จะชายตามอง เมื่อก่อนมีชิโร่ก็สนใจชิโร่มากกว่า ตอนนี้มีเจ้าบัวลอยแล้วยิ่งแล้วใหญ่ 90% เค้าเอาเวลาไปทุ่มเทให้ลูก อีก9.5%ดูแลบ้านกับชิโร่ ส่วนผมนะเหรอ ถึง0.5%ไหมนะ
ผมจิ้มๆแก้มเด็กน้อยแล้วก้มลงหอมแก้มลูกอย่างรักใคร่เอ็นดู ลูกใครวะ น่ารักชะมัด ตากลมโตมองแป๋วมาที่ผม ปากก็ดูดนมแม่จนแก้มบุ๋ม
“เจ้าบัวลอยเอ้ยยย ขัดจังหวะพ่อจริงๆเลยลูก รู้ไหม หื๊มๆๆๆๆ”
ผมหอมแก้มลูกรัวๆอีกหลายที น่ารักจริงๆเล้ย หน้าหวานเหมือนแม่ แต่คิ้วกับตาคมเหมือนผม ถึงดั้งจะยังไม่งอกแต่เดี๋ยวก็คงมา
“เต๋า! แหย่ลูกอยู่ได้ เดี๋ยวก็ไม่ยอมนอนกันพอดี “
คชามองผมตาเขียวปัด ดูท่าลูกเริ่มเคลิ้มๆใกล้จะหลับแล้ว เจ้าบัวลอยหลับตาพริ้ม ขนตายาวคลอเคลียกับแก้มกลม แต่ยังคงตั้งหน้าตั้งตาดูดนมอย่างเอาเป็นเอาตาย นี่มันหลับจริงไหมเนี่ย สงสัยจะสายแดรกเหมือนพ่อ
“หลับแล้วทำไมยังดูดนมอยู่ละ”
“ก็เค้ายังไม่อิ่ม”
“ทำไมล่ะ นมไม่พอ?”
“จะพอได้ไง นมกูมีอยู่เท่านี้เนี่ยเต๋า”
คุณมามือใหม่เริ่มหงุดหงิด สงสัยจะง่วง
“แล้ว......ทำยังไงอ่ะ”
“ก็สลับข้างไง ถ้าไม่พอก็ชงนมขวด  ถามมากจริงวะ ไปนอนเลยไป อย่าวอแว”
ชาไล่ผมอย่างไม่แยแส....อีกแล้ว ทำไมชีวิตหัวหน้าครอบครัวมันรันทดงี้ฟะ จะขึ้นพูดมากก็กลัวเมียด่า ไม่รู้แหละ คราวนี้ไม่ยอมให้ไล่ตามใจชอบล่ะ ผมจะทวงศักดิ์ศรีของผมคืน พ่อบ้านใจกล้า สู้โว้ย!
“ไม่เอาอะ จะช่วย”
“จะช่วยยังง๊ายยย ไป๊ๆ ไปนอนเลยเต๋า”
คชาทำหน้าระอา ยกมือขึ้นมาปัดไล่อย่างกะผมเป็นแมงหวี่แมงวันงั้นหล่ะ
“ก็...เดี๋ยวลูกกินนมไม่อิ่ม สงสาร....”
“แล้ว?”
คชาเงยหน้ามามองผม ทำหน้างง
“....ก็เลยว่าจะช่วยกระตุ้นให้ลูกเผื่อกินนมข้างเดียวไม่พอ”
คิ้วผูกโบละครับ ผมดึงสาบเสื้ออีกด้านลงเผยให้เห็นหัวไหล่ขาวเนียน อกขาวๆกับยอดอกสีชมพูสดตั้งยอดชัน บวมเล็กน้อยเพราะผมพึ่งดูดไปก่อนหน้านี้เอง
ผมประกบปากดูดยอดอกแรงๆ คชาสะดุงโหยง พยายามจะผลักหน้าผมออก
“เต๋า อย่า ไม่เล่นดิ ต๋าวววว หยู๊ดดด!!!
คงจะเชื่อหรอกนะ งอนก็งอนไป เดี๋ยวค่อยง้อทีหลัง
“อย่าดิ้นสิชา เดี๋ยวลูกตื่น”
ผมจับข้อมือของคชาแนบไว้กับเก้าอี้ เจ้าตัวถอนหายใจอย่างสิ้นหวัง เพราะลูกหลับอยู่ในอ้อมแขนอีกข้าง ถ้าดิ้นมากก็กลัวลูกจะตก
ผมตวัดปลายลิ้นรัวๆสลับกับการดูดเลีย คชาครางอื้อ หลับตาปี๋จนหน้ายู้ คงจะเสียวมาก
“เต๋า พอแล้ว ปล่อย....”
คชาครางเสียงอ่อน แทนที่ผมจะหยุดผมกลับรุกเค้าหนักเข้าไปอีก
“ไหนตรวจท่อนมข้างล่างหน่อยซิ ยังมีนมเหลือไหม”
ผมใช้มือแหวกเสื้อคลุมของคชาออก ลูบผิวเนียนลื่น แล้วประคองช้างน้อยที่ผงกหัวสวัสดีผมไว้ในมือ ผมรูดรั้งมันขึ้นลงโดยที่ปากและลิ้นยังคงสาละวนอยู่กับจุกข้างบนนั่น
“เต๋า ฮื้อออ ไม่เอา ให้ลูกหลับก่อนเดี๋ยวค่อยทำ นะ น้าๆๆๆ”
แหม มีทำเสียงสองออดอ้อน แต่รู้ทันหรอก เดี๋ยวเกิดชิ่งหลับก่อน ผมก็อดพอดีสิ ยังไม่ได้สักรอบเลยนะคืนนี้
ผมผละจากแผ่นอกขาวผ่องลงมานั่งคุกเข่าตรงหน้าคชาที่ แก้มแดงปลั่ง นั่งหายใจระทวยอยู่บนเก้าอี้โยกตัวเตี้ย
“เผื่ออีกหน่อยลูกปีนเล่นแล้วตกจะได้ไม่เจ็บมาก” ไอ้เตี้ยมันบอกตอนซื้อของทำห้องให้ลูก ขาไม่ถึง ยันพื้นไม่ได้ก็บอกสิ
 คชาหนีบขาแน่นไว้ด้วยกันอย่างกะอ่านใจผมออกงั้นแหละว่าผมกำลังจะทำอะไร
“อ้าขาหน่อย ผ่อนคลาย เกร็งมากๆระวังตะคริวกินนะจ๊ะ ทูนหัว”
ผมก้มลงเลียช้างน้อยที่เหยียดขยายเต็มที่จากโคนถึงปลาย คชาอ่อนยวบ ขาที่เกร็งแน่นเมื่อกี้คลายออก ผมเลยถือโอกาสนั้น ยกมันขึ้นพาดบ่าซะเลย
“ตะ เต๋า ซื๊ดดด  เลยเถิดใหญ่แล้ว อื้ออ ลูกก็นอนอยู่เนี่ย รอก่อน โอ้ววว”
 คชาแก้มแดงแจ๋ บุ้ยปากไปทางเจ้าบัวลอยที่ยังคงดูดนมเสียงจ๊วบจ๊าบ ไม่อิ่มสักทีนะลูกเอ้ย พ่อรอไม่ไหวแล้วนะ
“เจ้าบัวลอย เดี๋ยวป๋าทำน้องให้นะ จะได้มีเพื่อนเล่น เน๊อะ”
ผมหยิบครีมทากันผื่นผ้าอ้อมของลูกมาทาร่องสีชมพูด้านล่าง
“นั่นของลูก! ใช้ไม่ได้!
“ใช้ได้ ป๊าจ่าย แล้วนี่เค้าบอกอ่อนโยนสำหรับผิวแพ้ง่ายเห็นไหม ไม่เป็นไรหรอก”
ผมยกขาคชาขึ้นพาดที่เท้าแขนทั้งสองข้างแล้วส่งลำเนื้อเข้าไปช้าๆโดยที่ไม่สนใจมือสวยที่ทั้งฟาดทั้งทุบบ่าผม แต่พอดีผมหน้ามืด ลืมเจ็บลืมตายแล้วครับ
“อ๊า ชาจ๋า อย่างพึ่งตอด ซื๊ดดด ชารัดของเต๋ามากเลย”
ผมรั้งเก้าอี้ให้โยกมาข้างหน้าในขณะที่ผมแทงสวนไปด้วยพร้อมกัน มือที่ทุบตีผมเมื่อกี้ เปลี่ยนเป็นกำบ่าผมแน่น โดนจุดสินะ
ผมจับเก้าอี้โยกหน้าโยกหลังช้าๆ ปากทางจีบย่นถูกขยายจนตึงรั้งเข้าออกยามผมขยับสะโพกสวน
“อื้อ เต๋า ไม่เอา กูให้นมลูกอยู่ มึงนี่มัน.... อ๊ะ”
คชางับปากแน่นด้วยความเสียวซ่านเพราะผมก้มลงดูดหน้าอกสวยนั่นแรงๆแข่งกับเจ้าบัวลอยที่นอนอุ่นดูดนมอีกข้างๆ ข้างล่างก็ถูกผมชักขึ้นลงจนน้ำใสๆซึมเยิ้มเลอะเทอะไปหมด  ผมเงยหน้าขึ้นจูบปากอิ่มที่เผยออ้าน้อยๆพอให้ผมสอดลิ้นเข้าไปล้อเล่นกับลิ้นเค้าได้
“ดีไหม?
“ผัวะ! ยังจะมีหน้ามาถามอีก ไอ้บ้า! เอาออกไปเลยนะ”
เมียกูนี่มันสายโหด เลี้ยงกูด้วยมือด้วยตีนซะเหลือเกิน เดี๋ยวพ่อจะกำหราบให้จำไปอีกหลายวันเลยเชียว
“จ้าเมีย รับทราบ”
ผมโยกเก้าอี้ไปหลังสุดจนท่อนเนื้อเกือบจะหลุดออกมาแล้วโยกเก้าอี้มาข้างหน้าให้ท่อนเนื้อแทงเข้าไปลึกสุดลำ กระแทกผนังอ่อนๆข้างใน
“บอกให้เอาออก แต่ไม่ได้ห้ามเอาเข้านิ อื้ม ดูสิ ดูดของเต๋าใหญ่เลย”
“ไอ้เต๋า! ไอ้ชั่ว! อื้อ ซื๊ดดด”
ผมยังคงดึงดันโยกเก้าอี้หน้าหลัง แท่งเนื้อผลุบโผล่เข้าออกตามแรงโยก ยิ่งคชาด่า ผมก็ยิ่งโยกแรง
“เงียบๆหน่อยสิแม่มึง นี่อุส่าห์ช่วยโยกเก้าอี้กล่อมลูกให้หลับเร็วๆ ไม่ดีเหรอ”
พูดไปงั้น แต่บังเอิญได้ผลจริง เจ้าบัวลอยยอมปล่อยจุกนมที่คาบไว้ออก  ตาหนูขยับตัวเล็กน้อยจนได้ท่าที่สบายตัวแล้วหลับไป คชาถอนหายใจอย่างคนไม่มีทางสู้
“โอเคๆ ยอมแล้ว เอาลูกนอนก่อน แล้วค่อยไปต่อกันในห้อง นะๆ”
ผมถอนแท่งเนื้อที่ยังร้อนออกด้วยความเสียดาย อุ้มลูกจากอ้อมแขนคชามาวางในเตียงอย่างเบามือ ถ้าตื่นขึ้นมาอีกก็อดดิ
คชาขยับเสื้อคลุมที่หลุดรุ่ยให้เข้าที่ พอผมหันหลังเท่านั้นแหละ มันก็ลุกทำท่าจะหนีทันที แต่คิดว่าผมตามเค้าไม่ทันเหรอ ผมหันไปรวบเอวบางรั้งเข้าหาตัวอย่างรวดเร็วแล้วดันคชาจนติดเตียง
“เจ้าบัวลอย ดูสิ หม่าม๊าขี้จุ๊ ไม่รักษาสัญญา จะหนีเข้าห้องแล้วล๊อกประตูปล่อยให้ป๊านอนตากยุงอยู่ข้างนอกอีกแล้ว”
“ห้องนอนแขกก็มีก็ไปนอนสิ โว้ย! ปล่อย”
“ดื้ออย่างงี้ต้องทำโทษหนักๆ”
ผมดึงชายเสื้อคลุมด้านหลังของคชาขึ้น สะโพกสวยกลมกลึงเด้งโดดน่ากระแทกเป็นที่สุด ผมไม่รอช้า หิ้วขาเค้าขึ้นข้างนึง ก่อนจะจัดการส่งความเป็นชายเข้าไปสุดลำ
“อ๊าๆๆๆ”
ผมจัดการกระแทกจนเตียงโยก ส่วนเจ้าบัวลอยยังคงนอนหลับสนิท สงสัยจะชอบสั่นๆ
“ต๋าวว เต๋าคับ เดี๋ยวลูกตื่นมาเห็น ไม่เอาตรงนี้  นะๆๆๆ”
เด็กตัวเท่าเมี่ยงจะไปรู้เรื่องอะไร แต่เห็นแก่หน้าสวยๆที่เริ่มทำท่าเหมือนจะร้องไห้อยู่รอมร่อ  ผมเลยดันคชาไปจนติดกำแพงแทน ทีนี้พอไม่มีข้ออ้าง คุณภรรยาเลยทำได้แค่ก้มโค้งให้ผมทำโทษเค้าได้ถนัดก็เท่านั้น
“ซื๊ดดด อ๊าๆๆๆๆ”
“ชู่ว์... ชา อย่างครางเสียงดังสิ เดี๋ยวลูกตื่น”
คชาหันมามองผมตาเขียวปัด มือสวยฟาดหน้าขาผมดังป๊าบจนขึ้นรอย หึ! แรงมาก็แรงกลับ เราไม่เอาเปรียบ
ผมกระแทกทั้งแรงทั้งเร็วจนเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังผับๆๆลั่นห้อง ไม่นานนัก พวกเราก็ถึงจุดสุดยอด งวงช้างฉีดน้ำขาวข้นพุ่งโดนกำแพงติดวอลเปเปอร์ลายคุณหมีสีฟ้าจนเปอะเปื้อน พร้อมกับผมที่หลั่งเข้าไปในตัวเค้าจนหมดสิ้น
ผมซบลงไปบนแผ่นหลังเนียน หอบหายใจรัว
“แฮกๆๆๆๆๆๆ ชาจ๋า”
“ไงละ! พอใจรึยัง ไหนบอกจะช่วยเลี้ยงลูก สักแต่ว่าทำนะมึงน่ะ”
หื๋มมม ปากดี เห็นที่จะต้องปรับทัศนคติซะหน่อยละ ....... กว่าจะหายดื้อคงต้อง...  นู้นแหละ ยันเช้า!

Kacha’s mind
ผมนั่งอุ้มลูกทำหน้าเหม่อเอ๋อไปดาวไหนแล้วก็ไม่รู้ ก็ไอ้พ่อมึงตัวดีไม่ยอมให้ผมนอนเลย อ้างว่าจะทำน้องให้เจ้าบัวลอย แล้วก็ซอยผมทั้งคืน  แหมมมม วันนี้มันหยุดไม่ต้องทำงานนิ นอนดูทีวีกระดิกเท้าสบายใจเฉิบเลยนะ
“คชาอุ้มลูกดีๆ จะตกแล้วนั่น”
อ้อ ครับ แม่เต่ามาเยี่ยมหลาน นอกจากของกินของใช้มากมายแล้ว ยังซื้อสร้อยทองมารับขวัญตาหนูมันด้วย
“เข้าใจว่าแม่ลูกอ่อนนอนน้อย แต่นี่ดูอย่างกะไม่ได้นอนทั้งคืน ไปทำอะไรมา”
จะให้ผมตอบตามตรงไหมครับ
“บัวลอย มาหาย่า มา”
แม่เต่าเข้ามาอุ้มเด็กน้อยที่หัวเราะเอิ๊กอ๊ากร่าเริง พอลูกพ้นมือเท่านั้นแหละ ผมนี่ล้มลงขดตัวนอนเลยครับ ไม่ไหว ขอสักงีบ
“เต๋า นี่ช่วยคชาเลี้ยงลูกบ้างหรือปล่าวเนี่ย ปล่อยให้เค้าเลี้ยงคนเดียวไม่ได้นะ”
ผมเงี่ยหูฟัง ดูซิ๊ มันจะแก้ตัวว่าอะไร
“โธ่ แม่ ก็ต้องช่วยสิ ทั้งให้นม ให้น้ำ โยกกล่อมให้นอน แถมไม่พอยังช่วยให้คชาผ่อนคลายหายเหนื่อยด้วย ใช่ไหมคชา?
ผมถลึงตาใส่ไอ้ตัวแสบ ช่วยมากเลยมึงน่ะ ทำกูเหนื่อยกว่าเดิมสิไม่ว่า
“แล้วห้องบัวลอยนี่ทำไมเปื้อนเป็นรอยขนาดนี้ พึ่งทำห้องใหม่แท้ๆ ทั้งวอลเปเปอร์ เก้าอี้ มีแต่คราบอะไรไม่รู้ ดู ขอบเตียงลูกด้วย”
“ก็คชานะสิแม่ ไม่ค่อยระวัง เผลอป้ายครีมทาตูดลูกโดนกำแพงบ้าง ตาหนูแหวะนมโดนบ้าง ฉี่โดนบ้าง ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวเผื่อน้องเจ้าบัวลอยเป็นผู้หญิง คงได้ทำห้องใหม่ เน๊อะแม่มึง เน๊อะ”
ไม่ต้องมาพยักพะเยิดใส่กูเลยครับ ไอ้พ่อมึง หึมๆๆ
“แล้วนี่เมื่อไหร่จะได้ล่ะ ลูกสาวน่ะ อย่าพึ่งปิดอู่ล่ะ ยังหนุ่มๆกันอยู่ รีบๆทำหลานออกมาให้ย่าอุ้มอีกสัก3-4คนก็ดีนะ”
โห.... 3-4คน ตายสิครับ
“ก็......กำลังพยายามอยู่อะแม่ แต่ไม่ติดซักที”
ก็มึงมันไม่มีน้ำยาไง
“สงสัยผมจะทำงานเยอะเกิน ร่างกายอ่อนล้า..........”
อ่อนล้ามากกกก ถึกเป็นวัวเป็นควายจะแย่ นอนวันละห้าชั่วโมงก็อยู่ได้ ยังมีแรงเหลือไปเล่นบาสเตะบอลกับเพื่อนอีก ปล่อยกูเลี้ยงลูกคนเดียวนะ
“.........หรือผมอาจจะมีเวลาให้ครอบครัวน้อย “
เอ่อ ก็รู้ตัวนิ มาสลับให้กูออกไปเตะบอลบ้างสิ
“นี่ผมกำลังคิดว่าจะหยุดงานสักอาทิตย์ 2อาทิตย์ ...........”
หือ
“....เริ่มตั้งแต่วันนี้”
เห๋อ
“จะได้ช่วยคชาเลี้ยงลูก....”
ห๊า
“.....ท้างงงคืน”
เหี้ยยยยย
“เลี้ยงเยอะๆหนักๆเลยเน๊อะแม่มึงเน๊อะ”
T_T


ครับ พ่อมึง น้ำตากูไหลพรากด้วยความปลื้มปิติยินดี ผมเห็นฟ้าเหลืองตั้งเค้าอยู่รำไรเลยครับ



โอเค รู้ตัวว่าผิดที่หายไปนานเป็นครึ่งปี5555 พอดียุ่งอะไรก็ไม่รู้ เเต่ยังไม่หายนะ มาเเย้ว
ที่ลงในเล้าเป็ดหายไปแล้ว เลยคิดว่าจะไม่ลงแล้ว ส่วนที่ตัดออก หากประสงค์ที่จะอ่าน ไปที่บล๊อกกันจ้ะ หื่นได้เต็มที่ รบกวนอ่านกันอย่างมีสติ หื่นให้ถูกที่ถูกทางนะจ้ะ ลิงค์บล๊อกอยู่ในทวิตนะ
ฟิคสิบหน้านี้ มีเเรงบรรดาลใจมาจากรูปเเค่รูปเดียว ขอบคุณน้องดีเเลนด้วยที่มาเติมเต็มภาพมโนในหัวข้าพเจ้า คือมันดีย์

หึๆๆๆคิดว่าจะเขียนถึงฮันนีมูนที่สวิตละสิ ให้คนอื่นเขียนเน๊อะ หมดมุก นี่ก็รออ่านอยู่ คือทริปสวิตนี่สวีทกันมาก นี่ฟิน อยากให้ไปอยู่สักสามเดือน สงสัยคงได้เจ้าบัวลอยจริงๆ55555555