Monday, March 23, 2015

Let's Fight ตอนที่ 32 พ่อพลายงามของคชา



แสงแดดอ่อนส่องลอดผ้าม่านขาวโปร่งที่ปลิวไสวตามแรงลมเอี่อยในตอนเช้าอุ่นอาบผิวเนียนที่เปลือยปล่าวของผมเปรียบเสมือนผ้าห่มชั้นดีที่โลมไล้ให้ความอบอุ่นสบาย
“ชา.........คชา..............”
เสียงนกร้องจิ๊บๆสลับกับเสียงหวานของคนรักที่ตระกองกอดนอนแนบเคียงข้างมาทั้งคืน เสนาะหูฟังเพลิน อื้มมมม ขอฟังอีกนิดได้ไหม
“ชา...... ตื่น......ลืมตาหน่อย”
ผ้าม่านขาวถูกขยับกว้างขึ้นอีกนิดพอให้แสงแดดอ่อนลอดรำไรเข้ามากระทบเปลือกตาหนาและหนักอึ้งของคนร่างบางให้ต้องกระพริบปริบๆเพื่อปรับตัวกับแสงสว่างที่ฉายเข้ามาในห้องอันมืดมิดประดุจถ่ำค้างคาวของผม
“ชา ลุกขึ้นมาคุยกันก่อน”
อื้อออ ไม่อยากตื่นเลยอ่ะ จะกวนอะไรกันนักหนานะ อ่ะ ตื่นแล้วก็ได้  
“ฮ้าวววววว”
พอปรับสายตาได้ ผมก็พยายามจะขยับยกเปลือกตาอันหนักอึ้งให้เปิดขึ้นอย่างช้าๆ ช้างเผือกสีขาวสะอาดตา ทัดดอกไม้สีแดงที่หู งวงสีชมพูดูละมุนละไม ช้างน้อยน่ารักมีหนวดสีดำฟูฟ่องปุกปุยน่าซุกเล่น แถมยังมีชื่อผมกำกับอีก แหมมม ช้างเผือกตัวนี้ของผมนี่เองอ่ะ
“ชาทำอะไรลงไปเมื่อคืน ตื่นขึ้มมาดูผลงานสิ”
เดี๋ยวๆ ช้างพ่องสิมีหนวด! แล้วทำไมมีลายเซ็นกูกำกับวะ แถมงวงช้างนี่ก็กระดกขึ้นลง ขยับเข้ามาจ่อจนจะทิ่มตาผมอยู่แล้วเนี่ย เงยหน้าขึ้นมาอีกหน่อย อ้าวเฮ้ย ทำไมมีสะดือ แล้ววววววว ตัวขาวๆออร่ากระจาย หลอดไฟเดินได้ขนาดนี้ มัน...............

“แว๊กกกกกกกกกกก”
ผมกระเด้งตัวขึ้นมาด้วยความเร็วแสง ถดตัวหนีจนชิดผนังเตียงเมื่อระลึกชาติได้ว่าเมื่อคืนทำอะไร คือ แบบ ก็เห็นคุณเศรฐพงศ์แกนอนหลับเป็นตาย ทำหน้าบ้องแบ๋วไร้พิษสง อารามหมั่นไส้ เลยหยิบปากกาเคมีขึ้นมาเขียนเล่น ตอนแรกกะว่าจะแค่เขียนชื่อเท่านั้นละครับ ก็แบบ คนนี้ของผมอ่ะ กันไว้ เผื่อมันหนีไปจิจ๊ะกะคนอื่นแล้วมาอ้างว่าไปทำงานไรงี้ มันจะได้ไม่กล้า แล้วพอดีมันเพลินไปหน่อย ผมเลยเผลอเติมหูช้าง ใส่ตา เติมหาง หลังๆเริ่มเดินไปหยิบปากกาเมจิกสีอื่นๆมาเติมแสงเงา ไฮไลท์ เล่นกราฟฟิกสนุกใหญ่ คือมันไม่รู้ตัวเลยนิครับ หลับสนิทสุดๆ เขียนเล่นไปได้สักพัก จนผมง่วงแล้วหลับไปนั่นล่ะ
“คชา มึงตายแน่”
เต๋าโดดขึ้นเตียงมาจะคว้าตัวผมที่ตอนนี้ร่นหนีจนติดหัวเตียงซะให้ได้ บรื้อออ น่ากลัวชะมัดเลยครับ แล้วผมจะเหลือเหรอครับ เตียงก็มีอยู่แค่นั้น ตายแน่เลยกู
“พะ พี่เต๋าคับ พี่เต๋าปล่อยผ๊มมมมม”
“เหรออออ ให้ปล่อยเหรออออ เล่นซนซะขนาดนี้ จะให้ปล่อยง่ายๆเนี่ยนะ ก่อนเขียนทำไมไม่คิด จะลบทันก่อนไปเข้ากองไหม ห๊า!”
“แง๊! ตอนแรกว่าจะเขียนนิดเดียวแล้วมันเพลินอะ ชาไม่ได้ตั้งใจ”
อ้อนสุดชีวิตแล้วครับ นี่ถึงขั้นพนมมือพนมไม้แล้วเนี่ย ปล่อยกูไปเถ๊อะพ่ออออ
“ไม่ได้หรอก! ซนขนาดนี้ต้องสั่งสอน”
แว๊กกกก มันจับข้อมือผมแน่นเลยอ่ะ ปล่อยกู๊
เต๋าจับร่างเปลือยปล่าวของผมขึงพืดอยู่บนเตียง คือได้แต่โทษความขี้เกียจของตัวเองที่เมื่อคืนพอเช็ดตัวให้มันเสร็จแล้ว ผมก็ไม่ได้หาอะไรมาให้มันใส่ปิดบังความอุจาดของทั้งผมและมันด้วยนั่นล่ะ ของมันเลยมาทำเก่ง ชี้หน้าด่าผมอยู่เนี่ย
เต๋าหยิบปากกาเมจิกด้ามอ้วนสีแดงบนโต๊ะหัวเตียงมาให้ผมดู
“แท่งนี้ใช่ไหม ที่ใช้วาดดอกไม้เนี่ย”
นิ้วขาวๆจิ้มลายดอกไม้สีแดงที่ทัดหูเจ้าช้างน้อยอยู่ ก็ผมว่าสีแดงมันขับผิวเต๋าดูอะครับ เลยเติมลงไปด้วย
“งืออออออ พี่เต๋าจ๋า เค้าขอโตดดดด”
“เดี๋ยวกูจะเขียนบ้าง แต่............. กูจะเขียนข้างในนะ”
เต๋าสอดปากกาด้ามโตเข้าไปในช่องทางแคบๆทางด้านหลังที่ผมยังฉ่ำแฉะเพราะยังไม่ได้ทำความสะอาด (ก็เพราะความขี้เกียจของตัวเองอีกนั่นแหละ น่าจะล้างเอาลูกๆของไอ้เต๋าออกให้หมดตั้งแต่เมื่อคืน มัวแต่ห่วงนอนอยู่ได้ TTvTT) ปากกาแท่งอ้วนลื่นไถลเข้าอย่างง่ายดายกระแทกผนังข้างในจนผมสะดุ้งเอือก
“อ๊ะ! ต๋าววว เอาออกป๊ายยย”
“หืม เอาออกทำไมละ เต๋าอยากเขียนเล่นบ้าง”
เต๋าแกล้งขยับปากกาแท่งอ้วนลากวนขูดกับผนังด้านใน แถมยังกระแทกตรงนั้น กระทุ้งตรงนี้ทีจนสะกิดต่อมอยากจนผมตื่นตัวจนได้ ไม่ใช่ว่ามีอารมณ์กับปากกานะครับ แต่เช้าๆอย่างงี้ มันก็เป็นปกติของลูกผู้ชายแมนๆอย่างผมไหมละครับ
“แล้วแท่งนี้เหรอ............... ที่วาดหูช้าง”
เต๋าหยิบปากกาสีเขียวขึ้นมาอีกด้ามนึง แล้วชูให้ผมดู
“อะ อ๊า อื้อออ ตะ เต๋า มะ ไม่ใช่ แว๊กกก อย่า”
เต๋าสอดปากกาด้ามสีเขียวเข้าไปในช่องทางเล็กๆทางด้านหลัง ปากทางเล็กถูกยืดขยายจนผมเริ่มอึดอัด เต๋าแกล้งบิดขยับปากกาสองด้ามสลับไปมา กระทุ้งจุดกระสันของผมซ้ำ บ้างก็ถ่างปากกาออกจากกันจนช่องด้านในรู้สึกเย็นวูบ บ้างก็แทงซ้ายขวาจนของเหลวสีขาวขุ่นไหลออกมาจนเประเลอะที่นอน ต้องเปลี่ยนผ้าปูอีกแล้วใช่ไหมกู  ==
“แล้ว.............ที่เขียน  Kacha’s  นี่ แท่งสีน้ำเงินใช่ไหม”
เต๋าชูปากกาอีกด้ามขึ้นมาให้ดู ตาผมเบิกโพงอย่างหวาดผวา ถ้าใส่มาอีกแท่งนี่กูตายแน่แล้วแม่เอ้ย
“มะ ไม่ใช่นะ สีเขียว!!!
“สีเขียวพ่อง ตามึงบอดสีเหรอ เนี่ย เห็นไหม สีน้ำเงิน!
“เอ่อ ตากูบอดสี กู..เห็นสีเขียว ฮื้ออออ อย่าท่านเต๋าค๊าบบบบบ มันเป็นสีเขี๊ยวววว”
ผมคว้ามือเต๋าเอาไว้ก่อนที่มันจะบรรจงสอดปากกาเพิ่มเข้าอีกด้าม คือมันแน่นอ่ะ กูไม่ไหวแล้วโว้ย
พอเต๋าเห็นผมเริ่มร้องไห้ฟูมฟายน่าสมเพท มันถึงยอมใจอ่อนวางปากกาด้ามยักษ์ลงแล้วหันมาควงปากกาที่สอดอยู่ในตัวผมเล่นแทน
“ซื้ดดดด อ๊อยยยย ต๋าวววว อ๊าห์”
“อะไร คชา แข็งซะน้ำเยิ้มเชียว ไหวอะป่าวเบเบ้ อย่าพึ่งเสร็จนะโว้ย”
“โอ้ยยย ก็ ซื้ดดด อย่ากระแทก อ๊าห์ ตรงนั้นสิวะ!”
แกล้งกันอยู่ได้ไอ้เผือก กูเริ่มมีอารมณ์(โกรธ)แล้วนะโว้ย
“อื๊มมม คชา อย่าทำหน้างี้สิ น่าเอาชะมัดเลยว่ะ ของเต๋าแข็งแล้วเนี่ย “
เต๋าดึงมือผมไปจับของมันที่เหยียดแข็งและร้อนระอุ แถมยังแกล้งยึดมือผมไว้ไม่ให้ผมหดแขนหนีอีกต่างหาก  แต่เพราะว่าผมมีอารมณ์ร่วมไปกะมันซะแล้ว ผมเลยเผลอกำรูดแบบมึนๆไม่รู้ตัวเลยครับ
“เต๋า อื้อ ต๋าววว ไม่ไหวแล้ววว ช่วยด้วย”
“หึ จะให้ช่วยยังไงละครับ ไหนลองบอกสิ”
“ฮื้อออ........”
“ร้องงอแงก็ไม่ช่วยหรอกนะ หื้ม ตรงนี้เหรอ ตรงนี้”
“อู้ ยะ อย่า ไม่เอาปากกาแล้ว ฮือออ”
“ไม่เอาปากกาแล้วจะเอาอะไร หื้ม พูดชัดๆช้าๆ”
อารมณ์ผมพุ่งพล่านเกินกว่าจะมีสติยั้งคิดใดๆทั้งสิ้น
“ยะ อยากได้ของเต๋า...”
“ว่าไงนะ ไม่ได้ยิน”
“ต๋าว ใส่ของเต๋าเข้ามาที.....”
“หึๆ โอเครับทราบ”
เต๋าถอนปากกาทั้งสองด้ามที่เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำขาวขุ่นจากกิจกรรมเมื่อคืนออกจากเบื้องล่างของผมออก ความโล่งวูบเข้าแทนที่ แต่เพียงไม่นานเต๋าก็เติมเต็มมันอีกครั้งด้วยแก่นกายร้อนของตัวเองที่เสียบทีเดียวจนมึดด้าม กระแทกจุดกระสันของผมแรง ส่งผมให้ไปถึงฝั่งฝันทั้งที่ยังไม่ได้แม้แต่จะขยับ แก่นกายของผมฉีดน้ำขาวข้นเลอะกระจายเต็มหน้าท้องเต็มไปหมด

“เฮ้ย คชา เสร็จแล้ว! ยังไม่ได้เริ่มขยับเลย!”
“อึกๆๆ แง๊....................”
ผมทั้งอายทั้งเขินทั้งเสียฟอร์มเลยเผลอร้องไห้โฮออกมาเฉยๆซะงั้น เต๋าก้มอกมาโอบผมไว้แนบอก
“โอ๋ๆ เต๋ายังไม่ได้ว่าอะไรเลยครับ ไม่ต้องร้องนะ”
ผมตีหลังมันจนแดงด้วยความโมโห เพราะมึงเลย เพราะมึง! ทำกูขายหน้านะไอ้เหี้ย!
“โอ้ยๆ คชา อย่าตีสิ เจ็บ”
มันเลยแกล้งกระทุ้งหนักๆจนเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นห้อง ผมเสียวจนเกร็งเพราะผมพึ่งถึงจุดสุดยอดมาหมาดๆทั้งเนื้อทั้งตัวเลยไวต่อสัมผัสน่าดู มือที่เคยตีตอนนี้เปลี่ยนเป็นโอบเต๋าแทนอย่างลืมตัว เต๋าก้มลงประกบดูดปากผมซ้ำๆ
“ซื้ดดด ชา อย่ารัดแน่น เต๋าขยับไม่ได้แล้ว”
ขยับไม่ได้เหี้ยอะไร กูเห็นมึงซอยกูถี่ยิบเชียว
“อื้อออ อื้มมม อ้าห์”
ผมร้องครางตามอารมณ์ลั่น ใบหน้าบิดเบี้ยวเหยเกด้วยความเสียว เต๋าจ้องมองผมแล้วยิ้มหื่น
“หึๆ เขียนด้วยปากกาสีเขียวกับสีแดงไปแล้ว..... ตอนนี้ขอเต๋าใช้ปากกาสีเนื้อด้ามใหญ่เอ็กซ์ตร้าสเปเชียลเขียนบ้างนะ”







หลังจากจบสิ้นวิชาศิลปะเมื่อเช้า เต๋าก็เอาผมไปอาบน้ำ,กินข้าวแล้วขับรถเอามาจ่อมไว้กับพี่นัททิว,พี่พัดชากะเจ๊ฝน
“อะนี่ ค่าขนม มีอะไรโทรมานะ ขอเต๋าไปเรียนแป๊ป”
“อื้ม”
“แล้วเดี๋ยวกินข้าวเสร็จไม่ต้องไปไหนต่อนะ จะกลับมารับไปห้องอัดด้วยกัน”
สั่งจริงโว้ยยย นี่ผมว่าจะถามหม่าม๊าสักวัน ว่าจริงๆแล้วพ่อผมชื่อเศรฐพงษ์ เพียงพอหรือปล่าว คุมกูแจเลยเชียว
“งื้ออ ไม่เอาอะ จะให้ไปทำไมวะ ให้นั่งรอเงี้ยเหรอ”
“เอ๊า ก็มาให้กำลังใจไง เล่นโทรศัพท์ เล่นอะไรรอไปสิ”
เต๋าเริ่มขึ้นเสียงกับผมเล็กน้อย หลังๆนี่ขัดใจไม่ได้เลยเชียวพ่อคุณ แต่ผมไม่ยอมหรอก ขึ้นเสียงบ้าง ให้มันรู้เลยว่าใครใหญ่
“โอ้ยย มึงก็อัดไปเซ๊ะ จะให้กูไปนั่งเฝ้าทำไมวะ เบื่อแย่เลย กลับบ้านดีกว่า”
เต๋าถอนหายใจ ทำเสียงอ่อนใส่ผม เอื้อมมือมาลูบหัวผมเบาๆแบบที่มันชอบทำ
“ดีๆคชา ดีๆ ถ้าเชื่อฟังเดี๋ยววันนี้จะพาไปเตะบอล”
“ห๊า จริงเหรอ ไปๆ”
อ๊ากกก ดีใจอ่ะ นี่ไม่ได้เตะด้วยกันตั้งนานแล้วอ่ะ งื้ออออ
“ครับๆ จริงสิ ไอ้ทิวมันบ่นว่าอยากเจอด้วย อยากนัดใครมาก็นัดเลยนะ โทรไปจองสนามเลย”
“เย้!!! เดี๋ยวจะโทรชวนทั้งเอเอฟเลย”

ผมงี้ดีใจสุดๆ ใจจดใจจ่ออยากให้ถึงตอนเย็นไวๆ พอตกเย็นเต๋าก็มารับไปนั่งรอมันที่ห้องอัดด้วย ก็ให้ไปฟังเพลงใหม่คุณเค้าแหละครับ เดี๋ยวนี้คุณเค้าร้องดีขึ้นกว่าแต่ก่อนจมเลยไม่ต้องแก้ ไม่ต้องโค้ชกันมาก ไม่นานงานก็เสร็จ ผมงี้ลิงโลดสุดๆ จะได้เตะบอลแล้วววว อิอิ

สรุป ผมก็หาสมาชิกเตะบอลได้ 5คน คือถึงจะไม่ครบทีมแต่ก็พอทำเนาละครับ ใครว่างผมก็ชวนมาหมดอะ มีเบน ไบร์ท เหินฟ้า โด่ง ทิว แล้วก็ผมสองคน  ไอ้พวกนั้นมารอที่สนามกันก่อน เปลี่ยนเสื้อผ้าแต่งองค์ทรงเครื่องครบแล้วอีกต่างหาก ผมงี้คว้าเสื้อผ้าอุปกรณ์ลงจากรถด้วยความไวแสง รู้งี้เปลี่ยนมาจากห้องอัดเลยก็ดี ไม่ต้องเสียเวลา วุ้ย!
“เอ๊า ชา ทำไมไม่เอาเสื้อแมนยูเต๋ามาใส่อ่ะ”
“โห่ นี่ตอนเต๋าไม่อยู่ก็ทนใส่ให้แล้วไง ตอนนี้อยากเชียร์ทีมชาติไทยบ้างไม่ได้เหรอ”
“ก็วันก่อนไม่ใส่เลยหกล้มเลยเห็นไหม เนี่ย ดื้อกับเต๋าเทวดาลงโทษเลยดูสิ”
เพ้อเจ้อละมึง เทวดงเทวดาอะไรเล่า กูสะดุดยอดหญ้าล้มเองโว้ย ผมไม่สนใจ โยนข้าวของไว้ที่อัฒจรรย์ข้างสนามแล้วถอดกางเกงยีนส์ออกเพื่อเปลี่ยนเป็นกางเกงบอล
“เฮ้ย! มาถอดอะไรตรงนี้วะ ไปเปลี่ยนในห้องน้ำดิ”
ไอ้เต๋าเอะอ่ะโวยวายดังลั่นจนเพื่อนๆหันมาดูทั้งทีม
“โห่เต๋า ขี้เกียจไป มันเสียเวลา เพื่อนรอแล้วเนี่ย”
“จะบ้าเหรอ มันโป๊!
“วี๊ดวิ๊วววว หวงกลัวพวกผมเห็นเหรอพี่” เสียงไอ้เหินฟ้าเป่าปากแซวมาเเต่ไกล
เต๋ายังทำเสียงดุใส่ผม แล้วไอ้เชี่ยเหินจะมาแซวอะไรตอนนี้ฟะ เดี๋ยวตบกระโหลกแม่ง
“ใส่บอกเซ่อร์อยู่ กลัวไรวะ ทีตัวเองก็แก้ผ้าเปลี่ยนตรงนี้เหอะ แล้วทำเป็นมาสั่ง “
ผมไม่สนละ ไอ้ประสาท ผมดึงเสื้อขึ้นจะถอด เต๋ารีบถลาเข้ามาตระคุบเสื้อไว้แน่น
“ไม่เอา ไม่ให้เตะแล้ว เดี๋ยวขาเจ็บ ไปนั่งรอแจกผ้าเย็นกะน้ำไป”
“เฮ้ย อะไรวะ ไหนบอกจะให้เล่นไง เหี้ยไรเนี่ย”
เต๋าทำตาดุแล้วทำท่าชี้โบ้ชี้เบ้สั่งผม พร้อมกับยึดเอาเสื้อผมไปเก็บไว้ในกระเป๋าตัวเองเฉย
“ไม่รู้แหละ บอกให้นั่งก็นั่งสิ ถ้าดื้อเดี๋ยวระวังจะโดนดี”

ฮื้ออออ มึงเล่นขู่กูมาแบบนี้ กูนั่งก็ได้ครับ ฮ่วย! กูว่ากูไม่ต้องถามหม่าม๊าแล้ว มึงนี่แหละโครตพ่อกูเลย ไอ้คุณเต๋า!

Wednesday, March 18, 2015

Let's Fight ตอนที่ 31 ไอ้ดื้อเมียรัก กับของขวัญวันไวท์เดย์

เมียผมมันแรด…..
วันนี้ผมเหนื่อยจะแย่ แต่นานๆจะได้ว่างตรงกับเค้า ไอ้เราก็สู้อุตส่าห์ดั้นด้นขับรถข้ามพระนครมาค้างด้วย หวังว่าเดี๋ยวมาถึงคงจะได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น รีบกูลีกูจอลงมารับพร้อมรอยยิ้มสดใสอะไรอย่างงี้ พอมาถึง บ้านงี้เงียบเชียว โทรไปก็สายไม่ว่าง ดีนะ มีกุญแจ เลยเปิดเข้าไปเลย แต่ไม่เจอมนุษย์หน้าไหนสักกะคนเลยครับ สงสัยเค้าคงแยกย้ายกันไปนอนหมดแล้ว พอขึ้นมาถึงห้องนอนคุณชายนนทนันท์ ก็นึกว่ามันคงรอไม่ไหว หลับไป ที่ไหนได้ มันมัวแต่ระริกระรี้ คุยโทรศัพท์กับไอ้แม็ค

“เอ้อๆ เดี๋ยวลงรูปเลย......จ้าๆ เดี๋ยววันหลังคุยกันใหม่...............ค้าบๆ คิดถึงเหมือนกันจ้ะ ฝันดีครับ”
“คุยกะใครอ่ะคชา”
“อ้าวเต๋า มาแล้วเหรอ อ้อ คุยกะแม็คอ่ะ”
“แม็คไหน” แม่งมามีคิดถงคิดถึงเหี้ยไรวะ
“แม็ค เจนมานะไง ที่ไปร้องเพลงด้วยเมื่อวานอ่ะ กินข้าวมายัง ไปหากินในตู้เย็นเลยนะ ลงรูปแป๊ป”
ห่าละ ผัวกลับมาจากทำงานเหนื่อยๆ ทำไมไม่ไปเตรียมข้าวเตรียมปลามาให้กินวะ ยังจะให้ไปหากินเองอีก น้อยใจแม่ง
“...................ไม่ล่ะ กินมาจากกองแล้ว”
ยังครับ ไม่มีมาสนผมเลย เล่นคิ๊กคั๊กอยู่กับโทรศัพท์นู้น คชาแต่งรูปที่ถ่ายคู่กับ(ไอ้เชี่ย)แม็คในโอจี เขียนแคบชั่นว่า
 “ย้อนหลัง...Music Giving Day
 ผมนี่รู้สึกหมั่นไส้ขึ้นมาตะหงิดๆ
“ ไหน เอามาดูหน่อยเด๊ะ”
“อ๊ะ! ต๋าวววว!!!”
ผมงี้รีบพิมพ์ต่อเลยครับ
มันชักจะหนักข้อขึ้นทุกวัน #เบ๊บ #เบ๊บอะไร #มึงเป็นหมูเหรอ
ใส่ Hashtag แม่งเลยครับ จะได้เน้นๆ มาเต๊าะเมียชาวบ้านอยู่ได้ไอ้เวรนี่ กดโพสไม่สนใจไอ้เตี้ยที่ร้องกรี๊ดกร๊าดพยายามจะแย่งโทรศัพท์คืนจากผม
“แง๊ เต๋าอ่ะ โพสไปแล้วด้วย ทำไมทำงี้วะ ไอ้บ้า!
“แล้วทำไมจะไม่ได้ล่ะคชา ปล่อยให้เค้าเต๊าะอยู่ได้ มีเต๋าอยู่แล้วทั้งคน”
“เยอะแล้วนะ เต๋าชักจะเยอะละ เพื่อนกันทั้งนั้นอ่ะ ผู้ชายแมนๆคบกัน ไม่ใช่สาวๆซะหน่อย ทีเต๋าทำ ชายังไม่ว่าเลย”
ถ้าเป็นสาวๆ กูคงไม่หวงขนาดนี้หรอกมั้ง ก็เพราะไอ้เพื่อนแมนๆคบกันนี่แหละ เกิดมาสอยเด็กกูไปทำไงวะ
“อย่ามาพูด ขนาดเต๋าทำงาน แค่ถ่ายรูปคู่ ชาก็งอนไม่พูดด้วยแล้ว แล้วนี่อะไร ไปให้เค้าแตะโน้นต้องนี่ตลอดอ่ะ ไม่ชอบ เข้าใจไหม”
“เห็นนะ!ที่ให้สาวซบอ่ะ เดี๋ยวกูจะซบบ้างแม่ง มึงนี่มัน๑!DWEf#h&%%h3p-87…..
โน้นนี่ ขุดมาด่าผมยาวเลยครับ ผมขี้เกียจจะฟังเลยลุกหนีมาอาบน้ำซะเฉยๆ หลังๆนี่เค้าดื้อมาก บางทีผมโทรมาก็ไม่รับ ไลน์ก็ไม่ตอบ กว่าจะติดต่อกลับก็นาน แกล้งปล่อยให้ผมเป็นห่วงเล่นๆ ทำงานเสร็จบอกให้รีบกลับบ้านก็หนีไปเที่ยวต่อ แถมยังให้คนโน้นคนนี้โอบกอดแตะตัวไปเรื่อย ไม่ระวังเลย ยิ่งผมอยู่ไกล ออกต่างจังหวัดบ่อยก็ยิ่งเป็นห่วง ทำไมเค้าไม่เข้าใจบ้างก็ไม่รู้
พอได้อาบน้ำผมก็ใจเย็นลงหน่อย อารมณ์ที่ร้อนๆอยู่มันก็อ่อนลง หลังๆนี่เราทะเลาะกันบ่อยเกินไปแล้ว ผมรู้ว่าผมอารมณ์ร้อน แต่ผมทำงานมาก็เหนื่อยจะแย่ ยังต้องมารับรู้จากใครต่อใครอีกว่าคชาไปกับคนนู้นคนนี้ เค้าน่ะคิดกับคนอื่นเป็นเพื่อน แล้วคนอื่นล่ะ คิดเหมือนเค้าไหม พูดไปก็เหมือนวัวสันหลังหวะ เพราะผมเองก็ใช้วิธีเจ้าเล่ห์ บังคับเอาเค้ามาเป็นของตัวเองเหมือนกัน เกิดคนอื่นมาทำตีเนียนแล้วทำเหมือนผมล่ะ ไม่ได้ครับ ก่อนที่ใครจะมาซิ่วไป คงต้องคุยกันให้รู้เรื่องซะก่อน
คชานอนเงียบหน้างออยู่บนเตียง ผมแสร้งทำไม่สนใจ เช็ดตัวให้แห้ง ตากผ้าขนหนู หยิบบ๊อกเซอร์ในตู้มาใส่(อ๋อครับ เสื้อผ้าผมอยู่บ้านคชาสักครึ่งตู้ได้ ต้องมาค้างบ่อยๆนะครับ ) นั่งลงหันหลังให้เค้า แล้วทาครีมหรืออะไรต่อมิอะไรไป ประมาณว่าเล่นสงครามประสาทกันนั่นหล่ะ ใครพูดก่อนแพ้
“............................”
“...................................”
เอาสิ ไม่อ่อนให้นะคราวนี้
“เอ่อ ต๋าวววววววววววววว”
“............................”
“กลับมาเหนื่อยๆอ่ะ ชานวดให้ไหม”
เสียงอ้อนมาเชียวครับ แต่เราเป็นผู้นำครอบครัว(โมเมเอาเองสุดๆ) เราต้องแข็งแกร่งดุจหินผา จะมาล้มเลิกความตั้งใจง่ายๆไม่ได้
“...........................................”
“เต๋าค้าบบบบ เห็นบ่นในไอจีว่าเมื่อยไม่ใช่เหรอ นะ จะได้หลับสบาย”
“........................................................”
มุกนวดไม่ได้ผลหรอกบอกเลย!............... เงียบไปละ สงสัยยอมแพ้แล้วละสิ แกล้งเย็นชาอีกสักแป๊ปละกัน จะได้รู้สำนึก

“ต๋าวววววว หันมาทางนี้หน่อยยยย นะๆๆๆ”
ผมหันไปตามคำขอแล้วก็ต้องตะลึงอึ้งหัวใจแทบวายเมื่ออยู่ๆก็เจอเด็กตัวขาวล่อนจ้อนใส่แต่กางเกงในกับถุงเท้าสีขาวนั่งหน้าใสอยู่บนเตียงข้างหลังผม คชานั่งตูดแปะ แบะขาอยู่บนผ้าห่มลายจุดสีชมพูสดใส อวดนมน้อยเต่งๆ พุงกลมๆก้นป่องๆน่าขยำขยี้เล่นเป็นที่สุด อ๊ากกกกก
ผมนี่บังคับตัวเองให้หันกลับมาอย่างยากเย็น สติลูกเอ้ย สติ ไอ้หนูมันมาเหนือเมฆ มุกนวดไม่ได้ผล มันใช้มุกยั่ว แหมะ ตั้งแต่ทำสำเร็จคราวที่แล้ว งัดมาใช้บ่อยเลยสินะ  ไม่ได้ครับ ถ้าอ่อนให้ตั้งแต่ตอนนี้สงสัยคงโดนกดขี่ข่มเหงไปตลอดชีวิตเลยกู  แกต้องเป็นผู้นำครอบครัวนะเฟ้ย แกร่งดุจหินผาจำไว้ ไอ้เต๋า อย่ายอมแพ้!
“ใส่เสื้อซะคชา เดี๋ยวไม่สบาย”
“................................”

เสียงผ้าห่มขยับสวบสาบ แล้วผมก็รู้สึกถึงเนื้อหยุ่นๆนุ่มๆมาวางแปะอยู่บนแผ่นหลัง คชาเข้ามากอดผมไว้ ดึงแขนผมยิกๆๆ ตากลมโตน้ำตาคลอเบ้า เสียงสั่นๆน่าสงสาร
“เอ่อ ต๋าวววว”
“จ๋า......”
ผมเผลอขานรับไม่รู้ตัวเลยครับ หินผงหินผาอะไรช่างแม่งแล้ว โอ้ย เด็กมันยั่ว!
“เมื่อวานวันไวท์เดย์ชาไม่ได้ให้อะไรเต๋าเลยอ่ะ ชานวดให้นะ”
ไวท์เดย์จริงๆล่ะครับ ขาวกระแทกตาไปหมด ทำเอาผมหน้ามืดวิงเวียน เลือดกำเดาจะไหล นวดเนิดอะไรไม่สนแล้ว ผมประกบจูบดูดชิมริมฝีปากสีสตอว์เบอรี่น่ารักนั่น มือก็คลึงเค้นเล่นกับหน้าอกที่เป็นกระเปาะเล็กๆของคชา ปลายนิ้วบิดบี้จุกสีทับทิมทั้งสองข้าง หน้าอกคชาแข็งเป็นไต น่าลงลิ้นเล่นเป็นที่สุด ผมจูบดูดแรงๆ ละเลงลิ้นหนักๆจนคชาครางอื้อ

“ตะ ต๋าววววว นวดดดด”
“อื้ม นวดแล้วแก้ผ้าให้เต๋าดูทำไมครับ หื้ม”
ผมสบตาหวาน มองหน้าเนียนที่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีเลือดฝาด ลูบไล้ไปบนแผ่นหลังขาวเนียนอย่างเพลินมือ แล้วสอดมือเข้าไปในกางเกงผ้าฝ้ายสีขาวตัวจ้อย ใช้นิ้วบดบี้รั้งแยกรอยจีบพับข้างหลังจนบิดเบี้ยว
“อ๊ะ! ดะ เดี๋ยวสิ คือจะนวดน้ำมันไง เดี๋ยวเสื้อผ้าเปื้อน อื้ออออ”
ผมจับเค้ากดเอนลงกับเตียงแล้วทาบทับลงตาม
“นวดไว้ทีหลัง นาบก่อนแล้วกันนะ”

ผมวนจูบวนหอมไปทั่วทั้งหน้าทั้งตัวหอมๆนั่นจนหนำใจ คชานอนตาแป๋วแก้มแดงอยู่ในอ้อมกอดผม
“ไม่ง้อเหมือนคราวที่แล้วเหรอครับ หื้ม แบบนั้นน่ะ เต๋าจะหายโกรธทันทีเลยนะ”
คชาเบะปากเสตามองไปทางอื่น
“มะ ไม่เอาแล้ว ทำบ่อยๆเดี๋ยวเต๋าเบื่อแล้วทิ้งชาทำไง”
โถ พ่อคุณ พ่อทูนหัว  ใครจะไปทิ้งลง น่ารักน่าฟัดขนาดนี้  ต่อให้คุณไม่ยั่ว ผมก็หลงหัวปักหัวปำแล้วครับคุณนนทนันท์!
 ผมดึงมือเรียวสวยของคชาไปวางทาบกับสิ่งที่กำลังตื่นตัวเต็มที่ของตัวเองภายใต้กางเกงบ๊อกเซ่อร์ที่เริ่มจะปกปิดเจ้าสิ่งนั้นไม่มิดแล้ว
“ชาครับ จะมีใครทำให้เต๋าน้อยกลายร่างเป็นเต๋ายักษ์ได้ขนาดนี้อีกล่ะ  หื้ม”
คชาตกใจอย่างกับโดนของร้อน ไอ้หนูรีบชักมือออกเลยทันที แล้วกำมันไว้แน่นอย่างกะเด็ก ผมเผลอยิ้มอ่อนออกมาแบบไม่รู้ตัว ก็ไม่แปลกที่เค้าจะมีแต่คนเข้าหา คนอะไรน่ารักน่าเอ็นดูซะขนาดนี้ แต่มีแค่ผมเท่านั้นล่ะครับที่ได้เห็นใบหน้าเค้าในแบบนี้ ได้นอนข้างเค้า ได้เห็นเค้าหลับ ได้เห็นเค้าตื่น ได้กอด ได้จูบ ได้หอม แล้วจะไม่ให้ผมหวงกลัวคนอื่นมาแย่งไปได้ยังไงละครับ
“โธ่ มันไม่กัดหรอกหน่า ทำอย่างกับไม่เคยจับ ชิมก็ชิมมาแล้วเหอะ”
“ก็มันไม่ได้เตรียมใจนิ เตือนก่อนสิ”
“งั้นถ้าบอกก่อนจะยอมจับเหรอ”
-///////////-
“5555555555555”
ผมจุมพิศยอดอกสีหวานให้คชาแล้วย้ายลงมางับพุงกลมๆเบาๆ คชาทำตาเขียวปัดส่งมาให้ผม ช่วยไม่ได้ ก็มันดูฟูๆน่ากัดเล่นมาก คุณก็รู้ ว่าไอ้หนูมันกินขนมเยอะเหลือเกิน แฟนคลับให้มาก็ตั้งมาก ยังจะออกไปซื้อมาอีก ครับ ก็เงินผมนั่นแหละ รายนั้นเคยพกตังค์ที่ไหน
“อื้ม กางเกงในสีขาวน่ารักจังเลย”
พูดไปพลาง มือก็ลูบไล้ภายนอกของกางเกงผ้าฝ้ายเนื้อนุ่มเล่นไปพลาง ช้างน้อยเริ่มแข็งสู้มือผม น้ำใสๆซึมเปื้อนกางเกงในเป็นวง ผมก้มลงงับแท่งเนื้อร้อนในกางเกงตัวจ้อยเบาๆ คชาร้องด้วยความตกใจ ผมเลยเลียส่วนนูนเล่นเป็นการปลอบขวัญ

“ซื้ดดด ต๋าววว ถอดกางเกงออกก่อนสิ เดี๋ยวมันสกปรก เดี๋ยวหม่าม๊าเห็น”
“ไม่เป็นไรหน่า เดี๋ยวค่อยซักนะ”
ผมลงลิ้นตลอดความยาวของแท่งเนื้อใต้ร่มผ้าจนกางเกงในของคชาเปียกโชกไปด้วยน้ำลายของผมและน้ำรักของเค้า ส่วนหัวแข็งดันรั้งกางเกงในแทบจะทะลุออกมา โถ นี่คงจะอึดอัดมาก ผมอดสงสารไม่ได้เลยดึงรั้งขอบกางเกงลงเผยให้เห็นเนื้ออ่อนสีชมพูน่ากิน ผมเลยฉกลิ้นชิมน้ำหวานที่หลั่งออกมาไม่หยุดจากรูเล็กๆตรงปลาย
“อื้ออออ เต๋า ไม่ไหวแล้ว ถอดเถอะ นะ”
“ให้ถอดนี่คือกลัวเปื้อน หรือให้ถอดเพราะอะไร ชา”
“บ้า! =/////=
“5555555”
ผมดึงกางเกงในตัวน้อยลงกองไว้ที่หัวเข่า แล้วดันขาคชาขึ้นจนก้นลอย
“งื้อ เต๋า ทำไรอ่ะ”
“ก็จะจูบน้องให้คชาไง แล้วก็....ตรงนี้ด้วย”
“อื้อออ ไม่เอา ปิดไฟก่อน”
แหมะ! ยังจะมาทำปัดป้อง ทำอย่างกะผมไม่เคยเห็นงั้นล่ะ จะมาอายอะไรเอาป่านนี้
“ไม่ปิดอ่ะ จะได้เห็นชัดๆ เดี๋ยวจะต้องไปเวียดนามตั้งหลายวัน คิดถึงแย่”
“..................ไอ้หื่น”
“หื่นแล้วรักไหมล่ะ”
=///////////////////=”

ผมดึงกางเกงในให้พ้นขาของคชาข้างนึง แล้วกดถ่างขาออก คชานอนปิดหน้าด้วยความอาย ผมก้มลงชิมแท่งอ้อยหวานฉ่ำน่ากินที่อยู่ตรงหน้า วาดลิ้นวนตรงส่วนหัวแล้วดูดดุนยอดเห็ดอ่อนเบาๆ คชาร้องครางจนผมกลัวว่าเคนท์ที่นอนอยู่ห้องข้างๆจะได้ยินเอาซะก่อน
“ชู่ว์ เดี๋ยวเคนท์ หม่าม๊ากับป้านกจะได้ยินนะ”
“อื้ม!!”
คชารีบใช้มือปิดปากตัวเองแน่น กลัวเสียงหวานๆจะหลุดออกมาปลุกคนทั้งบ้านให้ตื่น ผมเลยได้ทีโรมลิ้นชิมรสดูดน้ำอ้อยหวานอย่างถึงใจ พอคชาใกล้จะเสร็จ ผมก็แกล้งถ่วงไว้ ย้ายลงมาชิมดอกบ๊วยข้างล่างแทน กลีบดอกสีชมพูยับย่นห่อขยับกระตุกทุกครั้งที่ผมฉกลิ้นเข้าหา ผมทั้งเลียวนรอบๆ ทั้งฉกทั้งแยงจนปากทางเล็กๆฉ่ำแฉะไปด้วยน้ำลายไหลเยิ้ม ผมแกล้งสลับไปมาระหว่างส่วนหน้ากับส่วนหลังของคชา เร้าอารมณ์ไอ้หนูจนเค้าเริ่มทนไม่ไหว ต้องร้องขอ
“ตะ ต๋าว ซื้ดดดด ไม่ไหวแล้ว ใส่เข้ามาเถอะนะ”
“ชาจูบน้องให้เต๋าบ้างสิ นิดเดียวนะครับ”
ผมจ่อไอสครีมอุ่นสีชมพูใสไปแตะที่ริมฝีปากสวย คชาไม่อิดออด ยอมอ้าปากรับเข้าไปดูดเล่นแต่โดยดี ไม่อยากเชื่อเลยครับ วันนี้ว่าง่ายมากๆ ไม่ต้องมอมเหล้าด้วย ผมเริ่มเข้าใจเพิ่มขึ้นมาอีกอย่างแล้วว่าถ้าเล้าโลมเค้าดีๆหน่อย เค้าก็ยอมตามใจเราเหมือนกัน
คชาดูดเลียไอสครีมแท่งโตไปได้ไม่นาน ผมก็ต้องขอให้เค้าคายออกเพราะกลัวจะทนไม่ไหว แตกใส่โพรงปากอุ่นเสียก่อน  แล้วผมก็ไปหยิบหล่อลื่นขวดใหม่เอี่ยมในกระเป๋ามาเปิด (รสมินต์-ขอบคุณครับที่ซื้อมาฝาก) เทใส่มือตัวเองแล้วสอดนิ้วเข้าช่องทางสีสวยเพื่อเปิดทางให้เค้า คชาตอดนิ้วผมแรงๆหลายที  ผมทนไม่ไหวอยากใส่ของตัวเองเข้าไปแทนแล้ว เลยถอนนิ้วที่เประเปื้อนออกมา เทหล่อลื่นกลิ่นหอมเย็นชะโลมลงบนท่อนเนื้อที่เหยียดแข็งของตัวเองแล้วพามันเข้าสู่ช่องเนื้อร้อนช้าๆ
“อื้อออ เต๋า ฮือออ”
“ทนเจ็บหน่อยนะครับ เดี๋ยวก็เข้าได้แล้วนะ”
ผมก้มลงจุมพิตดวงตาคู่สวยที่เปียกชื้น แล้วย้ายลงมาที่ริมฝีปากสวย สอดลิ้นเข้าไปล้อเล่นตวัดรัดกับลิ้นเล็กหวังให้เค้าได้ผ่อนคลายลงบ้าง ผมกับคชาไม่ค่อยมีเวลามาจิ๊จ๊ะกันหรอกครับ ก็งานผมมันยุ่งนิ พอไม่ค่อยได้ทำ มันเลยติดๆขัดๆอย่างงี้แหละ สงสารจริง

“เข้าหมดแล้วนะ ไหวไหม”
“อื้อออ มันจักกะจี๋แปลกๆอ่ะ”
หื้ม คือนี่เต๋ายักษ์ทั้งอันเลยนะเฟ้ย ไม่ใช่ขนนกปั่นในรูหู มาจั๊กจี๋อะไรเนี่ย
ผมเลยเดินหน้าขยับสะโพกตัวเอง เค้าจะได้เลิกจักจี๋แล้วเปลี่ยนเป็นเสียวแทน แต่ทำไปได้แป๊ปเดียว ผมก็เข้าใจเลยว่าคชาหมายถึงอะไร ก็ไอ้ความรู้สึกร้อนๆเย็นๆจักกะจี๋แบบพิลึกๆนี่มันอะไรกันฟะ ผมเริ่มเอะใจ เลยหยิบขวดหล่อลื่นใหม่เอี่ยมขึ้นมาอ่าน
Lubricant……tingling sensation       อ้อ มันช่วยทำให้รู้สึกวูบวาบนี่เอง”
“งื้อออออ”
“แล้ว......คชาชอบไหมอ่ะ ให้ทำต่อไหม”
ฝ่ามือสวยฟาดเพียะมาที่หลังผม
“แล้วจะถามทำไมเล่า ฮื่อ!  =///////=
อ้อ ครับๆ สรุปให้เอาต่อได้นะครับ แหมะ เราก็อุตส่าห์เป็นห่วง

ผมจับข้อเท้าเล็กๆที่ถูกห่อหุ้มด้วยถุงเท้าขาวน่ารักกางออกกว้าง กางเกงในสีขาวที่ผมเหลือคล้องติดอยู่กับขาอวบๆของคชาตกลงมาบังวิวน่าชมเบื้องล่างที่ผมโปรดปราน ผมงี้ต้องปัดมันออกอย่างรำคาญใจ
“ขนเริ่มยาวแล้วเนี่ย โกนอีกดีไหม เดี๋ยวโกนให้ ^_^
“อย่านะเฟ้ย ตอนขึ้นคันจะแย่ อย่าเผลอหลับนะมึง กูโกนของมึงทิ้งแน่ๆอ่ะ”
แน๊ะ มีมาขู่ด้วยนะ พ่อจงอางตัวน้อย
“ก็ลองดูสิ เดี๋ยวเต๋าถ่ายรูปโป๊คชาลงไอจีแม่งเลย ให้พวกไอ้เก้า ไอ้แม็ค ไอ้เมย์ และใครต่อใครรู้กันไปเลย ว่าคชาน่ะ ของใคร”
“งื้ออออ “
ผมเดินหน้าจัดการเด็กดื้อใต้ร่างผมเต็มลูกสูบ หล่อลื่นนี่มันดีจริงๆเลยครับ ให้ความรู้สึกแปลกใหม่ซาบซ่าดีมาก ใช้เวลาไม่นานทั้งผมและเค้าก็เสร็จไปตามๆกันอย่างไม่ยากเย็น ผมเองทั้งเหนื่อยทั้งง่วง ขยับถอนตัวออกมาช้าๆแล้วนอนพังพาบลงข้างๆเค้าที่หอบหายใจแฮกพอๆกับผม (ทั้งๆที่มันน่ะ นอนเฉยๆ ไม่ได้ทำอะไรเลยเหอะ) เหนื่อยครับ ขอพักสายตาแป๊ปนึง เดี๋ยวจะลุกไปล้างตัวนะ


Kacha’s mind

เต๋าหลับทิ้งผมไปเฉยเลยครับ ทั้งๆที่ยังสกปรกมอมแมม สงสัยจะเหนื่อยมากจริงๆ เต๋าทำงานหนักมาก ทั้งถ่ายละคร ทำเพลง อีเวนท์ บินเข้าบินออกกรุงเทพเป็นว่าเล่น ดูสิ ผอมกว่าผมแล้วเนี่ย
ผลสุดท้ายผมก็ต้องใช้ตัวเข้าแลกให้เค้าหายโกรธจนได้ พอเต๋าเหนื่อย เต๋าโมโหง่ายมาก แฟนคลับตัวดีก็คอยเอารูปเอาคลิปอะไรไม่รู้ไปให้ดู ไปฟ้องให้พ่อคุณเค้าประสาทแดกเล่น กรรมเลยมาตกอยู่กับผมต้องเอาร่างตัวเองสังเวยเจ้าพ่อเนี่ย นานๆจะได้ใช้เวลาด้วยกันทั้งที ผมก็ไม่อยากจะมาเสียเวลาทะเลาะกับเค้าเรื่องไม่เป็นเรื่องหรอกนะ คือไม่รู้ว่าทำไมจะต้องคิดมาก ผมจะมีเพื่อนบ้างไม่ได้เหรอไง แล้วผุ้ชายแมนๆคบกันน่ะ จะให้ผมห้ามเค้ายังไงละครับ ว่าอย่ามาโอบ อย่ามากอดเงี้ยเหรอ ดูหวงตัวเกินไปหรือเปล่า คนจะหมั่นไส้เอานะสิ
ขนาดจะไปแตะบอล พ่อคุณยังบังคับให้ผมใส่เสื้อของมันอ่ะ มันก็รู้ว่าผมเกลียดแมนยู แต่ก็ยังยัดเยียดมาให้ใส่ แถมให้ส่งรูปไปรายงานด้วยทุกครั้ง เหตุผลของพ่อคุณเค้านะเหรอ
“ใส่ไว้ ใครได้กลิ่นเต๋าจะได้ไม่ต้องเข้ามาเต๊าะ”
คือกูไม่ใช่เสาไฟฟ้านะครับคุณพี่เต๋า ที่มึงจะมาเยี่ยวรดหมายกลิ่นแสดงความเป็นเจ้าของเนี่ย แต่จะทำไงได้ ตัดๆปัญหาให้เค้าสบายใจด้วย เลยใส่อยู่แม่งทุกนัดนั่นแหละ จนพวกเอเอฟหัวเราะกันใหญ่แล้ว เค้าล้อว่าพ่อหวงเหรอ
ทีตัวเองนะ ตอนงานสุพรรณหงษ์ ถ่ายรูปกับสาวที่ไหนก็ไม่รู้ แต่ปล่อยให้เค้ามายืนซบอยู่ได้ ตอนผมเห็นลมงี้ออกหูปรี้ดเลย อยากจะไปตบกระบาลซะให้เข็ด  พอผมโทรไปโวยวาย งอแงใส่ พ่อคุณก็ซื้อโมเดลนารูโตะที่กำลังอยากได้มายัดปาก ผมเงียบเลยทีนี้ (ไม่ได้เห็นแก่ของนะ แต่เราเป็นผู้ใหญ่ไง หึๆ) แต่ก็ต้องมีการแก้เผ็ดบ้างล่ะ ผมแอบถ่ายรูปเจตอนหลับคู่กับผม พอลงปุ๊ป พ่อคุณเค้ารีบไลน์มาเลย ว่าเอาหน้าอกไปโดนแขนน้องได้ยังไง ไม่รักนวลสงวนตัว คือนมกูก็ไม่มีไหมไอ้เหี้ย เยอะละ เยอะ!
ก่อนที่เต๋าจะได้ผม มันแม่งเอาใจผมสาระพัดไม่เคยห้าม ไม่เคยว่าอะไรเลย ตอนนี้สงสัยจะหมดช่วงโปร พ่อคุณทั้งเอาแต่ใจ คอนโทรล ทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของแบบเต็มพิกัด ไปไหนกับใครก็ต้องรายงาน นอกเหนือจากพวก Dad’ s Asset กะน้องๆที่บ้านนี่ พ่อคุณจะจิกให้กลับบ้านตลอด จะอะไรนักหนา ดูสิ ถึงขั้นมาโกนขนdiamondผมทิ้งเนี่ย แม่ง ไม่ไว้ใจกันบ้างรึไงวะ
ดูสิครับ นอนกรนครอกสะบายใจเลย ผมเลยต้องไปเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดทำความสะอาดให้ แถมกางเกงในก็ต้องเป็นคนซักเองอีก ดูซิ๊ ไม่ได้เป็นคนทำเลอะเลยนะ ปกติเต๋าจะทำให้ผม ผมไม่เคยต้องทำเลย เป็นฝ่ายชิ่งหลับก่อนตลอด แต่นี่สงสัยเหนื่อยจริง เอาเหอะ ถือว่าสงสารเด็กตาดำๆ ตัวขาวๆ หื้มมมม ขนนี่น่าโกนทิ้งซะจริง แต่เดี๋ยวเกิดมันแกล้งเอารูปผมลงไอจีก็บรรลัยสิ

ผมเหลือบไปเห็นปากกาเคมีด้ามโตหลายแท่งบนโต๊ะเขียนหนังสือ แล้วก็เกิดอยากจะแก้เผ็ดบ้าง ไม่ให้โกนใช่ไหม ด้ายยยยย กูจะเขียนตัวมึงแม่งให้ยับเลย ฮึ่ม!