Monday, March 23, 2015

Let's Fight ตอนที่ 32 พ่อพลายงามของคชา



แสงแดดอ่อนส่องลอดผ้าม่านขาวโปร่งที่ปลิวไสวตามแรงลมเอี่อยในตอนเช้าอุ่นอาบผิวเนียนที่เปลือยปล่าวของผมเปรียบเสมือนผ้าห่มชั้นดีที่โลมไล้ให้ความอบอุ่นสบาย
“ชา.........คชา..............”
เสียงนกร้องจิ๊บๆสลับกับเสียงหวานของคนรักที่ตระกองกอดนอนแนบเคียงข้างมาทั้งคืน เสนาะหูฟังเพลิน อื้มมมม ขอฟังอีกนิดได้ไหม
“ชา...... ตื่น......ลืมตาหน่อย”
ผ้าม่านขาวถูกขยับกว้างขึ้นอีกนิดพอให้แสงแดดอ่อนลอดรำไรเข้ามากระทบเปลือกตาหนาและหนักอึ้งของคนร่างบางให้ต้องกระพริบปริบๆเพื่อปรับตัวกับแสงสว่างที่ฉายเข้ามาในห้องอันมืดมิดประดุจถ่ำค้างคาวของผม
“ชา ลุกขึ้นมาคุยกันก่อน”
อื้อออ ไม่อยากตื่นเลยอ่ะ จะกวนอะไรกันนักหนานะ อ่ะ ตื่นแล้วก็ได้  
“ฮ้าวววววว”
พอปรับสายตาได้ ผมก็พยายามจะขยับยกเปลือกตาอันหนักอึ้งให้เปิดขึ้นอย่างช้าๆ ช้างเผือกสีขาวสะอาดตา ทัดดอกไม้สีแดงที่หู งวงสีชมพูดูละมุนละไม ช้างน้อยน่ารักมีหนวดสีดำฟูฟ่องปุกปุยน่าซุกเล่น แถมยังมีชื่อผมกำกับอีก แหมมม ช้างเผือกตัวนี้ของผมนี่เองอ่ะ
“ชาทำอะไรลงไปเมื่อคืน ตื่นขึ้มมาดูผลงานสิ”
เดี๋ยวๆ ช้างพ่องสิมีหนวด! แล้วทำไมมีลายเซ็นกูกำกับวะ แถมงวงช้างนี่ก็กระดกขึ้นลง ขยับเข้ามาจ่อจนจะทิ่มตาผมอยู่แล้วเนี่ย เงยหน้าขึ้นมาอีกหน่อย อ้าวเฮ้ย ทำไมมีสะดือ แล้ววววววว ตัวขาวๆออร่ากระจาย หลอดไฟเดินได้ขนาดนี้ มัน...............

“แว๊กกกกกกกกกกก”
ผมกระเด้งตัวขึ้นมาด้วยความเร็วแสง ถดตัวหนีจนชิดผนังเตียงเมื่อระลึกชาติได้ว่าเมื่อคืนทำอะไร คือ แบบ ก็เห็นคุณเศรฐพงศ์แกนอนหลับเป็นตาย ทำหน้าบ้องแบ๋วไร้พิษสง อารามหมั่นไส้ เลยหยิบปากกาเคมีขึ้นมาเขียนเล่น ตอนแรกกะว่าจะแค่เขียนชื่อเท่านั้นละครับ ก็แบบ คนนี้ของผมอ่ะ กันไว้ เผื่อมันหนีไปจิจ๊ะกะคนอื่นแล้วมาอ้างว่าไปทำงานไรงี้ มันจะได้ไม่กล้า แล้วพอดีมันเพลินไปหน่อย ผมเลยเผลอเติมหูช้าง ใส่ตา เติมหาง หลังๆเริ่มเดินไปหยิบปากกาเมจิกสีอื่นๆมาเติมแสงเงา ไฮไลท์ เล่นกราฟฟิกสนุกใหญ่ คือมันไม่รู้ตัวเลยนิครับ หลับสนิทสุดๆ เขียนเล่นไปได้สักพัก จนผมง่วงแล้วหลับไปนั่นล่ะ
“คชา มึงตายแน่”
เต๋าโดดขึ้นเตียงมาจะคว้าตัวผมที่ตอนนี้ร่นหนีจนติดหัวเตียงซะให้ได้ บรื้อออ น่ากลัวชะมัดเลยครับ แล้วผมจะเหลือเหรอครับ เตียงก็มีอยู่แค่นั้น ตายแน่เลยกู
“พะ พี่เต๋าคับ พี่เต๋าปล่อยผ๊มมมมม”
“เหรออออ ให้ปล่อยเหรออออ เล่นซนซะขนาดนี้ จะให้ปล่อยง่ายๆเนี่ยนะ ก่อนเขียนทำไมไม่คิด จะลบทันก่อนไปเข้ากองไหม ห๊า!”
“แง๊! ตอนแรกว่าจะเขียนนิดเดียวแล้วมันเพลินอะ ชาไม่ได้ตั้งใจ”
อ้อนสุดชีวิตแล้วครับ นี่ถึงขั้นพนมมือพนมไม้แล้วเนี่ย ปล่อยกูไปเถ๊อะพ่ออออ
“ไม่ได้หรอก! ซนขนาดนี้ต้องสั่งสอน”
แว๊กกกก มันจับข้อมือผมแน่นเลยอ่ะ ปล่อยกู๊
เต๋าจับร่างเปลือยปล่าวของผมขึงพืดอยู่บนเตียง คือได้แต่โทษความขี้เกียจของตัวเองที่เมื่อคืนพอเช็ดตัวให้มันเสร็จแล้ว ผมก็ไม่ได้หาอะไรมาให้มันใส่ปิดบังความอุจาดของทั้งผมและมันด้วยนั่นล่ะ ของมันเลยมาทำเก่ง ชี้หน้าด่าผมอยู่เนี่ย
เต๋าหยิบปากกาเมจิกด้ามอ้วนสีแดงบนโต๊ะหัวเตียงมาให้ผมดู
“แท่งนี้ใช่ไหม ที่ใช้วาดดอกไม้เนี่ย”
นิ้วขาวๆจิ้มลายดอกไม้สีแดงที่ทัดหูเจ้าช้างน้อยอยู่ ก็ผมว่าสีแดงมันขับผิวเต๋าดูอะครับ เลยเติมลงไปด้วย
“งืออออออ พี่เต๋าจ๋า เค้าขอโตดดดด”
“เดี๋ยวกูจะเขียนบ้าง แต่............. กูจะเขียนข้างในนะ”
เต๋าสอดปากกาด้ามโตเข้าไปในช่องทางแคบๆทางด้านหลังที่ผมยังฉ่ำแฉะเพราะยังไม่ได้ทำความสะอาด (ก็เพราะความขี้เกียจของตัวเองอีกนั่นแหละ น่าจะล้างเอาลูกๆของไอ้เต๋าออกให้หมดตั้งแต่เมื่อคืน มัวแต่ห่วงนอนอยู่ได้ TTvTT) ปากกาแท่งอ้วนลื่นไถลเข้าอย่างง่ายดายกระแทกผนังข้างในจนผมสะดุ้งเอือก
“อ๊ะ! ต๋าววว เอาออกป๊ายยย”
“หืม เอาออกทำไมละ เต๋าอยากเขียนเล่นบ้าง”
เต๋าแกล้งขยับปากกาแท่งอ้วนลากวนขูดกับผนังด้านใน แถมยังกระแทกตรงนั้น กระทุ้งตรงนี้ทีจนสะกิดต่อมอยากจนผมตื่นตัวจนได้ ไม่ใช่ว่ามีอารมณ์กับปากกานะครับ แต่เช้าๆอย่างงี้ มันก็เป็นปกติของลูกผู้ชายแมนๆอย่างผมไหมละครับ
“แล้วแท่งนี้เหรอ............... ที่วาดหูช้าง”
เต๋าหยิบปากกาสีเขียวขึ้นมาอีกด้ามนึง แล้วชูให้ผมดู
“อะ อ๊า อื้อออ ตะ เต๋า มะ ไม่ใช่ แว๊กกก อย่า”
เต๋าสอดปากกาด้ามสีเขียวเข้าไปในช่องทางเล็กๆทางด้านหลัง ปากทางเล็กถูกยืดขยายจนผมเริ่มอึดอัด เต๋าแกล้งบิดขยับปากกาสองด้ามสลับไปมา กระทุ้งจุดกระสันของผมซ้ำ บ้างก็ถ่างปากกาออกจากกันจนช่องด้านในรู้สึกเย็นวูบ บ้างก็แทงซ้ายขวาจนของเหลวสีขาวขุ่นไหลออกมาจนเประเลอะที่นอน ต้องเปลี่ยนผ้าปูอีกแล้วใช่ไหมกู  ==
“แล้ว.............ที่เขียน  Kacha’s  นี่ แท่งสีน้ำเงินใช่ไหม”
เต๋าชูปากกาอีกด้ามขึ้นมาให้ดู ตาผมเบิกโพงอย่างหวาดผวา ถ้าใส่มาอีกแท่งนี่กูตายแน่แล้วแม่เอ้ย
“มะ ไม่ใช่นะ สีเขียว!!!
“สีเขียวพ่อง ตามึงบอดสีเหรอ เนี่ย เห็นไหม สีน้ำเงิน!
“เอ่อ ตากูบอดสี กู..เห็นสีเขียว ฮื้ออออ อย่าท่านเต๋าค๊าบบบบบ มันเป็นสีเขี๊ยวววว”
ผมคว้ามือเต๋าเอาไว้ก่อนที่มันจะบรรจงสอดปากกาเพิ่มเข้าอีกด้าม คือมันแน่นอ่ะ กูไม่ไหวแล้วโว้ย
พอเต๋าเห็นผมเริ่มร้องไห้ฟูมฟายน่าสมเพท มันถึงยอมใจอ่อนวางปากกาด้ามยักษ์ลงแล้วหันมาควงปากกาที่สอดอยู่ในตัวผมเล่นแทน
“ซื้ดดดด อ๊อยยยย ต๋าวววว อ๊าห์”
“อะไร คชา แข็งซะน้ำเยิ้มเชียว ไหวอะป่าวเบเบ้ อย่าพึ่งเสร็จนะโว้ย”
“โอ้ยยย ก็ ซื้ดดด อย่ากระแทก อ๊าห์ ตรงนั้นสิวะ!”
แกล้งกันอยู่ได้ไอ้เผือก กูเริ่มมีอารมณ์(โกรธ)แล้วนะโว้ย
“อื๊มมม คชา อย่าทำหน้างี้สิ น่าเอาชะมัดเลยว่ะ ของเต๋าแข็งแล้วเนี่ย “
เต๋าดึงมือผมไปจับของมันที่เหยียดแข็งและร้อนระอุ แถมยังแกล้งยึดมือผมไว้ไม่ให้ผมหดแขนหนีอีกต่างหาก  แต่เพราะว่าผมมีอารมณ์ร่วมไปกะมันซะแล้ว ผมเลยเผลอกำรูดแบบมึนๆไม่รู้ตัวเลยครับ
“เต๋า อื้อ ต๋าววว ไม่ไหวแล้ววว ช่วยด้วย”
“หึ จะให้ช่วยยังไงละครับ ไหนลองบอกสิ”
“ฮื้อออ........”
“ร้องงอแงก็ไม่ช่วยหรอกนะ หื้ม ตรงนี้เหรอ ตรงนี้”
“อู้ ยะ อย่า ไม่เอาปากกาแล้ว ฮือออ”
“ไม่เอาปากกาแล้วจะเอาอะไร หื้ม พูดชัดๆช้าๆ”
อารมณ์ผมพุ่งพล่านเกินกว่าจะมีสติยั้งคิดใดๆทั้งสิ้น
“ยะ อยากได้ของเต๋า...”
“ว่าไงนะ ไม่ได้ยิน”
“ต๋าว ใส่ของเต๋าเข้ามาที.....”
“หึๆ โอเครับทราบ”
เต๋าถอนปากกาทั้งสองด้ามที่เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำขาวขุ่นจากกิจกรรมเมื่อคืนออกจากเบื้องล่างของผมออก ความโล่งวูบเข้าแทนที่ แต่เพียงไม่นานเต๋าก็เติมเต็มมันอีกครั้งด้วยแก่นกายร้อนของตัวเองที่เสียบทีเดียวจนมึดด้าม กระแทกจุดกระสันของผมแรง ส่งผมให้ไปถึงฝั่งฝันทั้งที่ยังไม่ได้แม้แต่จะขยับ แก่นกายของผมฉีดน้ำขาวข้นเลอะกระจายเต็มหน้าท้องเต็มไปหมด

“เฮ้ย คชา เสร็จแล้ว! ยังไม่ได้เริ่มขยับเลย!”
“อึกๆๆ แง๊....................”
ผมทั้งอายทั้งเขินทั้งเสียฟอร์มเลยเผลอร้องไห้โฮออกมาเฉยๆซะงั้น เต๋าก้มอกมาโอบผมไว้แนบอก
“โอ๋ๆ เต๋ายังไม่ได้ว่าอะไรเลยครับ ไม่ต้องร้องนะ”
ผมตีหลังมันจนแดงด้วยความโมโห เพราะมึงเลย เพราะมึง! ทำกูขายหน้านะไอ้เหี้ย!
“โอ้ยๆ คชา อย่าตีสิ เจ็บ”
มันเลยแกล้งกระทุ้งหนักๆจนเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นห้อง ผมเสียวจนเกร็งเพราะผมพึ่งถึงจุดสุดยอดมาหมาดๆทั้งเนื้อทั้งตัวเลยไวต่อสัมผัสน่าดู มือที่เคยตีตอนนี้เปลี่ยนเป็นโอบเต๋าแทนอย่างลืมตัว เต๋าก้มลงประกบดูดปากผมซ้ำๆ
“ซื้ดดด ชา อย่ารัดแน่น เต๋าขยับไม่ได้แล้ว”
ขยับไม่ได้เหี้ยอะไร กูเห็นมึงซอยกูถี่ยิบเชียว
“อื้อออ อื้มมม อ้าห์”
ผมร้องครางตามอารมณ์ลั่น ใบหน้าบิดเบี้ยวเหยเกด้วยความเสียว เต๋าจ้องมองผมแล้วยิ้มหื่น
“หึๆ เขียนด้วยปากกาสีเขียวกับสีแดงไปแล้ว..... ตอนนี้ขอเต๋าใช้ปากกาสีเนื้อด้ามใหญ่เอ็กซ์ตร้าสเปเชียลเขียนบ้างนะ”







หลังจากจบสิ้นวิชาศิลปะเมื่อเช้า เต๋าก็เอาผมไปอาบน้ำ,กินข้าวแล้วขับรถเอามาจ่อมไว้กับพี่นัททิว,พี่พัดชากะเจ๊ฝน
“อะนี่ ค่าขนม มีอะไรโทรมานะ ขอเต๋าไปเรียนแป๊ป”
“อื้ม”
“แล้วเดี๋ยวกินข้าวเสร็จไม่ต้องไปไหนต่อนะ จะกลับมารับไปห้องอัดด้วยกัน”
สั่งจริงโว้ยยย นี่ผมว่าจะถามหม่าม๊าสักวัน ว่าจริงๆแล้วพ่อผมชื่อเศรฐพงษ์ เพียงพอหรือปล่าว คุมกูแจเลยเชียว
“งื้ออ ไม่เอาอะ จะให้ไปทำไมวะ ให้นั่งรอเงี้ยเหรอ”
“เอ๊า ก็มาให้กำลังใจไง เล่นโทรศัพท์ เล่นอะไรรอไปสิ”
เต๋าเริ่มขึ้นเสียงกับผมเล็กน้อย หลังๆนี่ขัดใจไม่ได้เลยเชียวพ่อคุณ แต่ผมไม่ยอมหรอก ขึ้นเสียงบ้าง ให้มันรู้เลยว่าใครใหญ่
“โอ้ยย มึงก็อัดไปเซ๊ะ จะให้กูไปนั่งเฝ้าทำไมวะ เบื่อแย่เลย กลับบ้านดีกว่า”
เต๋าถอนหายใจ ทำเสียงอ่อนใส่ผม เอื้อมมือมาลูบหัวผมเบาๆแบบที่มันชอบทำ
“ดีๆคชา ดีๆ ถ้าเชื่อฟังเดี๋ยววันนี้จะพาไปเตะบอล”
“ห๊า จริงเหรอ ไปๆ”
อ๊ากกก ดีใจอ่ะ นี่ไม่ได้เตะด้วยกันตั้งนานแล้วอ่ะ งื้ออออ
“ครับๆ จริงสิ ไอ้ทิวมันบ่นว่าอยากเจอด้วย อยากนัดใครมาก็นัดเลยนะ โทรไปจองสนามเลย”
“เย้!!! เดี๋ยวจะโทรชวนทั้งเอเอฟเลย”

ผมงี้ดีใจสุดๆ ใจจดใจจ่ออยากให้ถึงตอนเย็นไวๆ พอตกเย็นเต๋าก็มารับไปนั่งรอมันที่ห้องอัดด้วย ก็ให้ไปฟังเพลงใหม่คุณเค้าแหละครับ เดี๋ยวนี้คุณเค้าร้องดีขึ้นกว่าแต่ก่อนจมเลยไม่ต้องแก้ ไม่ต้องโค้ชกันมาก ไม่นานงานก็เสร็จ ผมงี้ลิงโลดสุดๆ จะได้เตะบอลแล้วววว อิอิ

สรุป ผมก็หาสมาชิกเตะบอลได้ 5คน คือถึงจะไม่ครบทีมแต่ก็พอทำเนาละครับ ใครว่างผมก็ชวนมาหมดอะ มีเบน ไบร์ท เหินฟ้า โด่ง ทิว แล้วก็ผมสองคน  ไอ้พวกนั้นมารอที่สนามกันก่อน เปลี่ยนเสื้อผ้าแต่งองค์ทรงเครื่องครบแล้วอีกต่างหาก ผมงี้คว้าเสื้อผ้าอุปกรณ์ลงจากรถด้วยความไวแสง รู้งี้เปลี่ยนมาจากห้องอัดเลยก็ดี ไม่ต้องเสียเวลา วุ้ย!
“เอ๊า ชา ทำไมไม่เอาเสื้อแมนยูเต๋ามาใส่อ่ะ”
“โห่ นี่ตอนเต๋าไม่อยู่ก็ทนใส่ให้แล้วไง ตอนนี้อยากเชียร์ทีมชาติไทยบ้างไม่ได้เหรอ”
“ก็วันก่อนไม่ใส่เลยหกล้มเลยเห็นไหม เนี่ย ดื้อกับเต๋าเทวดาลงโทษเลยดูสิ”
เพ้อเจ้อละมึง เทวดงเทวดาอะไรเล่า กูสะดุดยอดหญ้าล้มเองโว้ย ผมไม่สนใจ โยนข้าวของไว้ที่อัฒจรรย์ข้างสนามแล้วถอดกางเกงยีนส์ออกเพื่อเปลี่ยนเป็นกางเกงบอล
“เฮ้ย! มาถอดอะไรตรงนี้วะ ไปเปลี่ยนในห้องน้ำดิ”
ไอ้เต๋าเอะอ่ะโวยวายดังลั่นจนเพื่อนๆหันมาดูทั้งทีม
“โห่เต๋า ขี้เกียจไป มันเสียเวลา เพื่อนรอแล้วเนี่ย”
“จะบ้าเหรอ มันโป๊!
“วี๊ดวิ๊วววว หวงกลัวพวกผมเห็นเหรอพี่” เสียงไอ้เหินฟ้าเป่าปากแซวมาเเต่ไกล
เต๋ายังทำเสียงดุใส่ผม แล้วไอ้เชี่ยเหินจะมาแซวอะไรตอนนี้ฟะ เดี๋ยวตบกระโหลกแม่ง
“ใส่บอกเซ่อร์อยู่ กลัวไรวะ ทีตัวเองก็แก้ผ้าเปลี่ยนตรงนี้เหอะ แล้วทำเป็นมาสั่ง “
ผมไม่สนละ ไอ้ประสาท ผมดึงเสื้อขึ้นจะถอด เต๋ารีบถลาเข้ามาตระคุบเสื้อไว้แน่น
“ไม่เอา ไม่ให้เตะแล้ว เดี๋ยวขาเจ็บ ไปนั่งรอแจกผ้าเย็นกะน้ำไป”
“เฮ้ย อะไรวะ ไหนบอกจะให้เล่นไง เหี้ยไรเนี่ย”
เต๋าทำตาดุแล้วทำท่าชี้โบ้ชี้เบ้สั่งผม พร้อมกับยึดเอาเสื้อผมไปเก็บไว้ในกระเป๋าตัวเองเฉย
“ไม่รู้แหละ บอกให้นั่งก็นั่งสิ ถ้าดื้อเดี๋ยวระวังจะโดนดี”

ฮื้ออออ มึงเล่นขู่กูมาแบบนี้ กูนั่งก็ได้ครับ ฮ่วย! กูว่ากูไม่ต้องถามหม่าม๊าแล้ว มึงนี่แหละโครตพ่อกูเลย ไอ้คุณเต๋า!

No comments:

Post a Comment