กาลครั้งหนึ่ง ณ เมืองดูไบ นครที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐอาหรับเอมิเรตต์
คชา นักร้องหนุ่มน้อยวัยใสพร้อมด้วยแฟนคลับและทีมงานได้เดินทางมาเหยียบแผ่นดินทะเลทรายนี้เป็นครั้งแรก
“อ้าห์ ร้อนจังเลยนะ”
แสงแดดระยิบระยับสะท้อนผืนทราบแยงตาตี่ๆของคชาที่สวมชุดขาวแปลงกายเป็นท่านชิคหนุ่มรูปงาม
เจ้าตัวมโนอย่างสนุกสนานว่าเขาและเหล่าผู้ติดตามกำลังออกสำรวจกิจการบ่อน้ำมัน
แถมยังทำท่าเอามือไพล่หลังหน้าตั้งเดินดุ๊กดิ๊กวาดลวดลายราวกับเค้าเป็นคนใหญ่คนโตเสียเต็มประดา
“อืมมม เดี๋ยวไปพาอับดุล เจ้าอูฐแสนรักของเรามาทีนะ
เราใคร่อยากจะขี่หลังมันเล่น”
“เอ่อ ชาจ๊ะ”
“แล้วเย็นนี้อย่าลืมจัดระบำหน้าท้องรอไว้ที่วังของเราด้วยล่ะ
เราอยากชมไปรับอาหารเย็นไป แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้นะ เดี๋ยวเราขอแวะไปซื้อทองก่อน แล้วค่อยกลับ”
“หนูคชาจ๊ะ”
“แล้วก็บอกยูซิฟให้.....”
“เอ่อ คชา ลูก หยุดมโนได้แล้วจ๊ะ มาถ่ายรูปหมู่กันก่อนดีกว่าไหม แฟนคลับเค้ารออยู่นั่นน่ะ”
พี่ต้อยเอ่ยทัก
“แหมะ พี่ต้อยอ่ะ ขัดจังหวะผมจริงครับ ผมงี้เซ็งเลย ปะๆๆ
ถ่ายรูปก็ถ่ายรูป เดี๋ยวค่อยกลับมาเล่นต่อก็ได้ “
คชากระเง้ากระงอนอย่างเด็กน้อยเอาแต่ใจ
แต่ก็ยอมเดินตามพี่ต้อยไปแต่โดยดี
คชาถ่ายรูปกับแฟนคลับทีมงานจนเสร็จ แต่ก็ยังรู้สึกไม่สมใจ
เลยหยิบมือถือสีขาวเครื่องน้อยคู่ชีพขึ้นมา เดินยักแย่ยักยัน บิดซ้ายหมุนขวา
หามุมเซลฟี่โดนลืมระวังสิ่งแวดล้อมรอบตัวไปเสียสนิท
“ว้าย! พี่คชา!”
เพราะไม่ทันได้ระวังตัว
หนุ่มน้อยเผลอสะดุดล้มคว่ำลงไปในอ้อมแขนแกร่งของชายหนุ่มรูปงามเสียโครมใหญ่ ถ้าบังเอิญเค้าไม่รับไว้
มีหวังก้นกระแทกพื้นแน่ๆ
“โอ้ยยยย”
“Are
you alright Ma’am? Are you hurt?”
หนุ่มหล่อผิวขาวผมหยิก หน้าตาคมคาย
จมูกโด่งเป็นสันรับกับไรหนวดจางๆเหนือริมฝีปากหนา ทำให้คชาถึงกับตะลึง
ชายหนุ่มคนนี้แต่งตัวเหมือนกับเค้าเปี้ยบ แต่ทำไมถึงดูดีกว่าจมก็ไม่รู้
“ฮะ--เฮริทพ่อเมิงสิ มายืนอะไรตรงนี้ฟะ เกะกะจริงเชียว วุ๊ย!”
คชาแกล้งโวยวายเพื่อกลบเกลื่อนความอายของตัวเอง
พึ่งมาถึงต่างแดนวันแรก เค้าก็ทำเปิ่นซะละ
“อ้าว คุณผู้หญิงเป็นคนไทยอย่างงั้นหรือ ลุกไหวไหมครับ”
หว๋ายยยย อ้ายแขกขาวนี่มันพูดไทยได้ด้วยโว้ย
“อ้อ ท่านแม่ของเราท่านเป็นลูกครึ่งไทย-เวียดนามน่ะ
เราเลยพูดไทยได้คล่อง”
“อะ---อะไรเล่า ไม่ได้ถามซะหน่อย ปล่อยซะทีสิ”
ชายหนุ่มนิรนามยังคงโอบคชาไว้แน่น
แม้คชาจะพยายามดิ้นให้หลุดยังไงก็ไร้ผล
“หืม ปากเก่งจังเลยนะ มาเที่ยวบ้านคนอื่นแล้วยังทำกร่างอย่างงี้
ระวังจะเจอดีเข้าล่ะ”
“ทำไม ใครจะทำไม แม่งเดี๋ยวกู
อื้อออ”
อยู่ๆชายหนุ่มหน้าคมก็ก้มลงมาประทับจูบบนริมฝีปากของเค้าอย่างแนบแน่น
คชาผู้น่าสงสารอึ้งตะลึงงันไม่แม้แต่จะได้ทันตั้งตัว เค้ารู้เพียงแค่ว่า จุมพิตของหนุ่มอาหรับลูกครึ่งคนนี้
ทำเอาสติของเค้ากระเจิดกระเจิง ร่างกายไม่ทำงาน โสตประสาทไม่แม้รับรู้ แม้ว่าเสียงหวีดร้องของฝูงติ่งรอบตัวที่ดังสนั่นราวกับไซเรนก็ตามที
“หวานเหมือนที่คิดไว้ไม่มีผิดเลยคนสวย”
“ไอ้บ้ากาม ปล่อยกู๊! คนสวยพ่อง กูเป็นผู้ชาย ไม่เห็นชุดท่านชิคนี่รึไง”
“อ้าว
นี่จะแต่งเป็นชิคเหรอ เห็นหน้าหวานๆใสๆ ก็นึกว่าใส่ชุดเจ้าสาว"
“Pardon
Sir, They are waiting. You have to go”
หนึ่งในผู้ติดตามของหนุ่มอาหรับสุดหล่อกระซิบขัดจังหวะการจู๋จี๋??กันของทั้งคู่ ใบหน้าหล่อถอนหายใจเฮือกอย่างเสียดาย
“Ahhhh
too bad. Well, I am Tao Sattaphong Mohammed bin Rashid Al
Maktoum. Remember me and we shall meet again, my Sheikha”
“ใครจะไปเสียเวลาจำฟะแม่ง คนอุตริเหี้ยอะไรชื่อยาวอย่างกะลิเก
ละยังจะมาเรียกกูว่าชิคคะๆอีกนะ ไอ้ประสาท”
คชาได้แต่ยืนบ่นกระปอดกระแปดกับตัวเอง
มองตามหลังชายหนุ่มปริศนาที่เดินจากไปพร้อมผู้ติดตามเห็นเพียงแค่หลังของชุดสีขาวไวๆ
“แน่จริงอย่าให้เจออีกนะเฟ้ย พ่อจะต่อยให้ฟันร่วง!”
นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา คชาก็ไม่กล้าแต่งตัวเป็นท่านชิคอีก
เค้าได้แต่ปลอบใจตัวเองว่ามันไม่เหมาะกับคนเท่ๆอย่างเค้าหรอก ถึงแม้จะรู้อยู่เต็มอกว่ามันเป็นเพราะเค้ากลัวคนจะเข้าใจผิดว่าเป็นเจ้าสาวแล้วมาบังคับจูบอีกนั่นเอง
ก็นั่นจูบแรกในชีวิตเลยนะ
“เอาเถอะ ผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไป ถือซะว่าหมาเลียหน้า ตั้งใจทำมาหากินดีกว่ากรู”
กิจกรรมของคชาวันนี้คือการร้องเพลงให้แฟนคลับฟัง
พวกเค้ามานั่งพักผ่อนกันที่ในบาร์คาราโอเกะระดับสูงแห่งหนึ่ง
ร้านนี้อยุ่บนยอดอาคารสูง เผยให้เห็นวิวของทั้งเมือง แม้จะเป็นลานกว้าง แต่ก็ถูกซอยเป็นโซนๆด้วยกระจกใสเพื่อความเป็นส่วนตัว
แต่ละส่วนมีเวทีของตัวเองเอาไว้สำหรับแขกที่อยากจะขึ้นไปจับไมค์ร้องเพลงโชว์แก่หมู่คณะ
แม้จะมีเพียงเวทีเล็กๆ และที่นี่ก็ไม่มีใครที่รู้จักเค้านอกจากแฟนคลับคนกับทีมงาน แต่
เค้าก็ยังคงตั้งใจร้องเพลงอยู่ดีเพื่อตอบแทนน้ำใจของพวกเค้า
คชายักย้ายส่ายสะโพกน้อยๆ วาดลวดลายอยู่บนเวที และแน่นอนว่าเพราะความน่ารักมิ้งขนาดนี้
ย่อมเป็นจุดสนใจของคนในร้านเป็นธรรมดา
ระหว่างที่เค้ากำลังร้องเพลงอยู่นั้น
อยู่ๆก็มีลุงแขกพุงพลุ้ยเข้ามาดึงแขนเค้าลงจากเวที
“Hey
cutie! Gorgeous voice! Come drink at my table”
“เฮ้ย! เหี้ยอะไรฟะเนี่ย ฮื๊ออออ ปล๊อยยยย”
คชาพยายามดิ้นให้หลุด แต่ก็ป่วยการในเมื่อตัวของเค้าเล็กนิดเดียวเมื่อเทียบกับแขกร่างอ้วนนั้น
ส่วนจะหวังให้พี่ป้อม ผู้ชายเพียงคนเดียวในคณะมาช่วยก็ป่วยการ นู้น
โดนลูกน้องไอ้อ้วนมันจับไว้อยู่บนโซฟาน่ะ
“Oh come on! Don’t be shy. I will
tip you hard, baby boy”
อ้ายเฮ้ยย มันก็รู้นิว่ากูเป็นผู้ชาย แล้วมันจะมาแอ๊วกูทำซากอะไรฟะ
งื้อออ ปล่อยกู๊...
ขณะที่คชากำลังจะเสียท่าให้กับจุมพิตมรณะของชายอาหรับพุงพลุ้ยอยู่นั้น
อยู่ๆก็มีเสียงเข้มๆท้วงขึ้นมาช่วยชีวิตอยู่ข้างหลัง
“He
doesn’t like it. You shouldn’t do that.
“what the fuck! Don’t
you know who am I? He’s mine. Go find your own boy toy!”
“He is not yours, Lets him go”
ไอ้ตัวอุ้ยอ้ายราวกับ Jabba the hutt จอมหื่นหันหน้าไปกะจะเอาเรื่อง
แต่อยู่ๆมันก็ทำตาโตเหมือนเห็นผีแล้วล่าถอยเข้าหลีบมืดไปอย่างรวดเร็ว
“เป็นไรรึปล่าว ทำอะไรไม่ระวังเลย มานั่งกับเราดีกว่านะ”
“มะ ไม่เอา ไม่ไปอ่ะ”
คชาทำหน้าเลิกลัก ส่งสายตาขอความช่วยเหลือจากฝูงติ่ง
“หรืออยากให้ใครมาหิ้วไปอีก อย่าดื้อ”
มีหรือครับท่านคชาจะกล้าเถียง แต่ถึงอยากจะขัดใจก็ไม่ได้อยู่ดีเพราะชายหนุ่มหน้าตาดีแต่แรงควายสัดๆเอามือโอบเอวบางแล้วลากเค้าไปโซน
VIP เรียบร้อย
ส่วนฝูงติ่งและทีมงาน
เมื่อเห็นว่าเป็นหนุ่มสุดฮอตคนเมื่อวานก็ไม่มีใครคิดจะขัดขวาง
มัวแต่ยกมือถือคิดมาถ่ายรูปอยู่ได้ สาววายนี่มันวายจริงๆ
“อื้ออ ไม่ต้องมาใกล้ขนาดนี้ได้ป่ะ”
หนุ่มน้อยสลัดตัวเองออกจากอ้อมแขนแกร่ง ชายหนุ่มหน้าคมยิ้มเล็กน้อย
แล้วผายมือให้เค้านั่งลงข้างๆ
“นั่งสิ ชื่อคชาใช่ไหม”
“นายชื่อ......อะไร ฮัดช่าๆนะ”
“คนบ้าอะไรจะชื่อฮัดช่า เรียกเราว่าเต๋าก็แล้วกัน อะ ดื่มอะไรดี อืมมม
ยังเด็กอยู่ เอาน้ำหวานแล้วกันนะ”
“ไม่สิ จะกินเหล้า เอาแรงๆเลย”
คชาโวยวายเสียงดังกลบเกลื่อนความอาย ไอ้บ้านี่ช่วยเค้าไว้มาสองวันติดแล้ว
จะบังเอิญเกินไปไหม
“จะให้’เอา’...แรงๆเหรอ”
ชายหนุ่มหน้าคมถามซ้ำด้วยความฉงน พึ่งจะเจอกัน
ก็มาขอให้เค้าร่วมรักด้วยแรงๆเสียแล้ว
“โว้ยยย ไม่ คือหมายถึงให้ชงเหล้าแรงๆ “
คชาตะโกนตอบอย่างหัวเสีย
“อย่าเลย เดี๋ยวเมาไม่รู้เรื่องจะช่วยตัวเหลือตัวเองไม่ได้นะ”
“อย่ามาแส่ จะให้กินหรือไม่ให้
ไม่งั้นจะกลับโต๊ะละ”
เค้ายังคงยิ้มอย่างอารมณ์ดี ไม่ถือสากริยาโวยวายที่คชาทำเมื่อคู่
ก็มันดูน่ารักออกขนาดนั้น จะโกรธไปทำไม
“หึๆ อะ กินเสียให้หนำใจ”
แค่พยักหนี้ยงครั้งเดียว คนสนิทที่ยืนใกล้ๆรอคำสั่งก็รีบรินของเหลวสีอำพันส่งให้ถึงมือคชา
หนุ่มน้อยหน้าใสทำหน้าดีใจเพราะเค้าไม่ค่อยได้มีโอกาศได้กินหรอก ในเมื่อหม่าม๊าคนสวยของเค้าไม่เคยอนุญาตให้เค้าดื่มนะสิ
คชาดีใจ รีบยกแก้วสีสวยขึ้นดืมทันที
“พรวด! เหล้าห่าอะไร ไม่มีกลิ่นแอลกอฮอลเลยวะ”
“55555 ก็นั่นมันน้ำชานะสิ เราเป็นอิสลาม กินเหล้าไม่ได้ ไม่รู้รึไง”
“แล้วมาหลอกให้กินทำไมหละ งื้อ”
คชาทำหน้างองอนตุ๊บป่อง เพราะเค้าพลาดเสียฟอร์มหนักกว่าเดิม
ถูกหลอกให้ดื่มน้ำชาซะได้
“เอ้า ที่ไม่ได้บอก ก็นึกว่าจะดมแล้วรู้เอง ไม่กินเหล้าก็ดีแล้ว
เกิดเมาแล้วใครจับตัวไปจะแย่เอา”
“งื้อออ ประเทศเฮงซวย เหล้าก็ไม่มีให้กิน ผู้ชายก็มีแต่เกย์
ไม่อยากอยู่แล้วโว้ย”
คชากระแทกแก้วลงบนโต๊ะเสียงดังอย่างไม่สบอารมณ์
หน้าเง้าหน้างออย่างเด็กเอาแต่ใจ
“อ้าว พูดให้มีดีๆ เหล้าก็มีแต่ต้องสั่ง แล้วผู้ชายก็ไม่ใช่เกย์ซะทั้งหมด
ตัวเองนั่นละผิด คิดยังไงมาทำหน้าหวานแกว่งตูดส่ายเอวบนเวทีละ เค้าก็นึกว่าขายนะสิ”
“ห๊า!!”
“..............หรือว่า......ขายจริงๆ เดี๋ยวจะซื้อก็ได้นะ”
“อะ ไอ้บ้า ไอ้เวร ไอ้ประเทศเกย์วิปริต IYG;O@gtdfu08#1=!?OP…. อื้อออออออ”
ท่ามกลางคำด่าทอมากมาย
ท่านเต๋าจงใจหยุดมันด้วยจุมพิตหนักๆลงไปบนริมฝีปากสวยๆนั่น คชาทั้งทุบทั้งตีแต่ก็ไม่เป็นผล
เต๋ายังคงตั้งหน้าตั้งตาจูบต่อไปจนหนำใจนั่นแหละ ถึงยอมผละออก
“ปากดีนักนะ พูดไม่เพราะเลย อีกสักทีดีไหม”
“ไอ้บ๊ะ อ๊ะ อ๊า อื้ออออ”
หาเรื่องใส่ตัวแท้ๆคชาเอ๊ย เราไม่ควรทำปากเก่งเมื่อสถานการณ์เป็นรองอย่างงี้
เด็กๆจำไว้นะจ๊ะ เพราะคราวนี้ท่านชิคสุดหล่อแกไม่ได้กะจะหยุดแค่จูบ แต่กลับสอดมือแข็งแรงสมชายเข้าไปลูบไล้ผิวละเอียดเล่นของคนใต้ร่างที่ถูกกดไว้แน่นกับผนักโซฟา
ก็นี่มันโซน VIP นินะ จะทำอะไร ใครจะกล้าห้าม
พอเต๋าจูบจนหนำใจแล้วก็ยอมปล่อย
คชาก็รวบรวมแรงทั้งหมดฟาดหมัดหนักๆไปที่ปลายคางหล่อๆของท่านเต๋า แม้จะไม่แรงมาก
แต่ก็ทำให้เต๋าเซอร์ไพรส์ไม่ใช่น้อย
“ผัวะ”
“โอ้ย ไอ้เด็กเปรตนี่”
“กูไม่เอาแล้วโว้ยยย
กูจะกลับบ้านเดี๋ยวนี้เลย จะไม่มาอีกแล้วประเทศบ้าๆนี่”
คชาลุกขึ้นยืนตะคอกใส่หน้าท่านเต๋า เมื่อได้ด่าเค้าสมใจ ก็วิ่งหนีล้มลุกคลุกคลานกลับลงมาหาแฟนคลับที่กำลังร้องเพลงกันอย่างสนุกสนานที่โต๊ะ
เด็กน้อยถลาตัวเข้าไปซบตักพี่ต้อยร้องไห้ฟูมฟายฟายแบบไม่แคร์สื่อว่าจะกลับบ้าน พูดยังไงก็ไม่ฟัง
พี่ต้อยได้แต่ปลอบให้หยุดร้องแล้วสัญญาว่าจะเดี๋ยวจะพากลับ นั่นละ ชาถึงจะยอมเงียบลง
“เอางี้นะครับคนเก่ง ไหนๆก็มาแล้ว ถ้าชาไม่สบาย
วันนี้กลับโรงแรมก่อนไหม ถ้าพรุ่งนี้ตื่นแล้วยังรู้สึกไม่โอเค เดี๋ยวพี่เปลี่ยนตั๋วให้นะครับนะ”
“อื่อ ฮับ”
พี่ต้อยคนใจดีใช้สองมือประครองหน้าใสเช็ดน้ำตาจากดวงตากลมโตด้วยความเอ็นดู
แต่งานก็คืองาน เธอกะว่าถ่วงเวลาไว้ก่อน แล้วเดี๋ยวค่อยว่ากัน
ชาชาน้อยที่เมื่อกี้เบะปากร้องไห้จนตาบวม พอสงบแล้วก็ยอมให้พี่ป้อมเออาร์ใจพระแต่อ่อนซ้อมพากลับโรงแรม
ทุกคนยังอยากสนุกกันต่อ เลยไม่มียอมกลับไปอยู่ด้วย แต่ไม่เป็นไรฮับ ชาเล่นคนเดียวได้
ยังไงวันนี้ก็สู้รบปรบมือกะอีพวกหื่นๆตั้งสองคน แบตหมดพอดี
คชาน้อยอาบน้ำปะแป้งจนตัวหอมแล้วสวมชุดนอนลายเป็ดสีเหลืองสดใสที่แฟนคลับซื้อให้
เตรียมตัวจะมุดขึ้นเตียง จนกระทั้งได้ยินเสียงเคาะประตูหน้าห้อง
“เอ๊ะ ทำไมพี่ป้อมกลับมาเร็วจัง ไหนบอกไม่เมาไม่เลิกไง แม๊ะ อ่อนวะ
อิอิ .............ค้าบๆ มาแล้วฮะ”
ด้วยความรีบร้อนและไม่ระวังตัวจนเป็นนิสัย
คชาเปิดประตัวพรวดออกไปที่โถงทางเดินโดยไม่ได้สังเกตว่ามีหนุ่มชุดดำ2คนยืนซ่อนอยู่หลังประตูด้วย
“อ้าว ไรวะ ไม่เห็นมีใครเลย อุ๊บ อื้ออออออ”
หนุ่มชุดดำปริศนาประกบผ้าเช็ดหน้าที่หยดยาสลบลงบนใบหน้าสวย คชาไร้ทางต่อต้าน
สูดกลิ่นฉุนกิ๊กเข้าจมูกไปเต็มๆ ยิ่งสูดมาก
สติการรับรู้ของเค้าก็ห่างไกลออกไปทุกที
คชาได้แต่คิดอยู่ในใจก่อนสติของเค้าจะดับวูบลง ……………
“ไอ้ประเทศทะเลทรายบ้า กูจะไม่กลับมาอีกแล้วแม่ง”
No comments:
Post a Comment