เมื่อเป็ดป่วย-มหากาพย์ซอยหอม
คชาเค้าไม่สบายครับ...............
เมื่อคืนก่อน ผมนอนกกมันอยู่ดี คชาก็ลุกขึ้นมาโอ๊กอ๊ากกลางดึก
สักตีสี่ได้
ผมก็ว่ามันคงท้อง นี่ดีใจ คงจะได้เห็นหน้าเจ้าบัวลอยเร็วๆนี้แน่ๆ
แต่สักพักพอมันเริ่มมีไข้ หน้าซีด ปากสั่น บ่นปวดหัว ปวดท้อง ผมเริ่มใจไม่ดี
วิ่งไปเคาะประตูห้อง ปลุกหม่าม๊ากับป้านกให้ลุกขึ้นมาดู
พวกเราเลยตัดสินใจพาเค้าไปโรงบาล
พอถึงโรงบาล นักข่าวเต็มไปหมด
เค้ามารอทำข่าวอุบัติเหตุทั่วไปกันตามปกติแหละครับ หม่าม๊าเลยบอกให้ผมกลับบ้านก่อน
แล้วจะโทรมาบอก
ถ้านักข่าวเห็นเราสองคนอยู่ด้วยกันตอนตีสี่ตีห้าคงจะต้องได้แก้ข่าวกันยาวเลย
มันจะยุ่งกว่าเดิม ซึ่งผมก็เห็นด้วยกับแม่หมวย แม่ยายผมนี่รอบคอบ สงบ ฉลาดเป็นยอดหญิงที่สุด
แต่จะกลับบ้านเลยก็ห่วง ผมก็เลยได้แต่รออย่างกระวนกระวายอยู่ที่จอดรถโรงบาลนั่นแหละ
คือสาบานว่าผมไม่ได้ทำรุนแรงอะไรกับมันจริงๆนะ ช่วงนี้พวกเรายุ่งมาก
แค่จะได้เจอกันยังน้อย บางทีผมก็ลงทุนขับรถไปแค่ให้ได้นอนกอดเค้านั่นเอง
ผมรออยู่พักใหญ่ๆ เผลอหลับไปเมื่อไหร่ไม่รู้
ก็ต้องมาตกใจตื่นเพราะเสียงโทรศัพท์ สรุปเค้าต้องแอดมิดครับ
ไม่ได้กลับบ้านวันนี้แน่ๆ ผมก็ก้มดูนาฬิกา หกโมงกว่าแล้ว วันนี้มีงาน
เลยได้แต่ฝากฝังหม่าม๊าแล้วตัวเองก็ตีรถกลับบ้านไปอาบน้ำ กินข้าว แล้วออกบ้านไปกอง
พอทรูออกข่าวว่าคชาต้องยกเลิกงาน
ทั้งติ่งทั้งนักข่าวก็มารุมถามผมอย่างกะผมเป็นสามีมันงั้นแหละ(เอ่อ
แต่ก็จริงนิเน๊อะ)
ติ่ง: “พี่เต๋าไปเยี่ยมพี่คชายัง”
ผม: “ยังเลย ป่วยเมื่อไหร่อ่ะ”
ทำไก๋ไปก่อนละครับ อย่ารีบรับไป เดี๋ยวแตกตื่น
ติ่ง: “เมื่อวาน”
ผม: “กินเยอะก็เงี้ยแหละ”
หึๆ ได้ทีด่ามัน5555 ................เอ๊ะ! เดี๋ยว! ทำไมทุกคนทำหน้าฟิน?
อุ๊บ! ชิบหายละ ผมเผลอหลุดปาก ไม่ได้การครับ
ต้องแก้ตัว
เอาใหม่ๆ
ผม: “ทราบว่าป่วยจากแฟนคลับ เค้ากินไม่เป็นเวลา
พักผ่อนน้อยอันนี้ทราบจากไลน์กลุ่ม มีเวลาว่างจะไปเยี่ยม…บลาๆๆ”
หึๆ หน้าสลดเลยสินะฝูงติ่ง
อย่าหวังจะได้ฟินกันง่ายๆ5555....................................อ้าว!
เดี๋ยวแม่งยิ้มฟินอะไรกันอีกแล้ว นี่ผมพลาดตรงไหนอีกล่ะ
ควรไปสิงทวิตสืบเอาความ..................อ้าว!เค้าหาว่าผมแจกแจงละเอียดจนเกินเหตุ ไม่สมจริง
เฮ้ยยย นี่นักแสดงมืออาชีพเลยนะเว้ย ไม่สมจริงยังไงวะ ช่างแม่ง เออใช่สิ
ก็ถ้าผมจะแสร้งทำฟอร์มไม่รู้ ไม่ห่วง
ไม่สนแต่จริงๆอกแทบจะระเบิดด้วยความกังวลแล้วมันผิดตรงไหน นั่นเมียกับลูกในท้อง
เอ๊ย เมียกำลังปวดท้องทั้งคนเลยนะ จะไม่ดูดำดูดีได้ไงเล่า
พอผมเลิกจากปาร์ตี้ปิดกอง(ต้องไปทำหน้าร่าเริงตามหน้าที่
แต่ในใจสุดแสนจะกังวลถึงไอ้เป็ดซีดที่โรงบาล)
ผมก็รีบแจ้นไปโรงพยาบาลทันทีเพื่อผลัดเวรให้แม่หมวยกับป้านกได้กลับไปพักผ่อนที่บ้านบ้าง
ถ้าใครไม่เข้าใจว่าแม่หมวยต้องเหนื่อยแค่ไหน ก็ลองมาดูแลคชาตอนป่วยดูครับ ..................
คชานั้นติดหม่าม๊ามากๆๆๆๆ
ยิ่งเวลาป่วยยิ่งโยเยงอแง เดี๋ยวก็จะกอด จะหอม
ขอจับมือ ดมผม นอนซุกอกแม่หมวย ป้อนน้ำให้นุ้งที ขอน้ำส้มด้วย กินเสร็จก็อ๊วก
แม่ก็ต้องเช็ด พอไข้ขึ้นก็ต้องเช็ดตัว พยาบาลจะทำก็ไม่เอา โน้นนี่สารพัด คือกว่าเค้าจะหมดฤทธิ์
หลับได้แต่ละที เล่นเอาแม่หมวยเหงื่อตก แต่พอนอนก็นอนได้ไม่นานเพราะไม่สบายตัว
ก็ตื่นขึ้นมาร้องโยเยอีก แม่หมวยก็ต้องเริ่มวัฐจักรใหม่ วนหลูบอยู่อย่างงี้ทั้งวัน
ทุกครั้งที่คชาป่วยผมเลยต้องมาคอยสลับตอนกลางคืนให้ ครับ ผมทำงี้มาหลายครั้งแล้ว
ตั้งแต่ตอนที่ยังไม่ด้เป็นอะไรกันนั่นแหละ
ในห้องคนป่วยมีเพียงแสงจากโคมไฟเล็กๆบนโต๊ะ
พยาบาลใจดี ปิดไฟเพดานให้คชาได้นอนเต็มทีหลังจากตรวจเสร็จ คชานอนขดตัวขมวดคิ้วอย่างน่าสงสาร
ผมถอดเป้ออกวางบนโซฟาข้างๆเตียงก่อนจะปีนขึ้นไปนอนเบียดกับเด็กน้อยหน้าเซียว
“หม่าม๊า”
“หม่าม๊ากลับบ้านไปพัก นี่เต๋าเอง”
“เต๋า ฮื้ออออ“
“เป็นไงบ้าง”
“ปวดท้อง อึกๆ ฮื้อออ”
“โอ๋ๆ ไม่ร้องนะ เดี๋ยวยาก็ออกฤทธิ์”
คชาน่าสงสารมาก
เค้าซุกหน้าอยู่กับอกผมแล้วร้องครางเบาๆ แก้มใสเปื้อนคราบน้ำตา ตาก็ทั้งช้ำทั้งปูด
คาดว่าคงจะร้องไห้มาทั้งวัน
“ชู่ว์ นอนนะครับ เต๋าอยู่นี่นะ”
ผมจูบหน้าผากอุ่น
แล้วจูบเบาๆที่เปลือกตาตูบบวมๆของเค้า คชาผอมลงอีกแล้ว กินอะไรก็ไม่ได้ ออกมาหมด หมอเลยต้องให้น้ำเกลือกับให้กินอาหารอ่อน
พอได้ยาเลยพอทุเลาลงบ้าง แต่เห็นได้ชัดเลยครับว่าเค้าอ่อนเพลีย
“หายเมื่อไหร่นะ
จะออกไปกินซูชิกะราเม็งให้หนำใจเลย ฮื้ออออ”
โห ยังจะคิดเรื่องกิน
ก็ไม่ใช่เพราะว่ายัดเอาๆหรอกเหรอถึงต้องมานอนอยู่ตรงนี้เนี่ย
เมื่อก่อนก็ไม่กินเยอะขนาดนี้นี่หว่า หรือจะติดความสายแดกมาจากผม
“จ้าๆ เดี๋ยวพาไปกิน”
“น้ำหนักที่กูทำไว้หายหมดเลย ฮื้ออออ”
“ผอมๆก็ดีนะ เวลาอยู่ข้างก็ง่าย”
“ผัวะ! ยังจะหื่นนะมึง ฮื้อออ”
โหะ...แรงเท่ามดยังจะมาตี
“จ้ะๆ เจ้าหมูน้อยนอนนะ หมูคชาๆ”
“เมื่อก่อนเต๋าก็พูดเงี้ย จำได้ป่ะ
ตอนที่ชาเป็นไมเกรนอ่ะ”
นั่นนะสินะ นี่มันกี่ปีมาแล้วนะ
ตอนที่ผมยังได้แต่แอบชอบเค้า ตอนที่สถานะเรายังเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่มีชื่อเรียก
“ขอบคุณนะที่อยู่ด้วยกันมาตลอด”
“อืม ก็ตอนนั้นชาอย่างเหวี่ยง ไม่เอาใครเลยนิ
ทรุดเอาๆ หม่าม๊าก็ไม่รู้จะทำไง”
“...........อื่ม”
“เดี๋ยวนี้เป็นผู้ใหญ่แล้ว
จะไม่เป็นอย่างงั้นอีกแล้วเนอะ”
“..................อื่ม”
“ต่อจากนี้ ถ้ามีเรื่องอะไร
ก็จะไม่เครียดจนต้องเข้าโรงพยาบาลอีกแล้ว สัญญาได้ไหม”
“......................สัญญา”
“ดีมาก งั้นนอนนะ เดี๋ยวหายแล้วอยากไปไหน
จะพาไปให้หมดเลย จุ๊บ!รักนะครับ
At Loveeee”
ผมรั้งเอวบางดึงเค้าเข้ามาแนบอก
จูบฟัดแก้มหมูผอมๆในอ้อมแขนให้ชื่นใจ แล้วก็ได้แต่ภาวนากับสิ่งศักดิ์สิทธ์ขอให้ที่รักของผมหายเร็วๆ
แล้วผมจะดูแลเค้าให้ดี ผมสัญญา
Kacha’s
mind
และแล้ว หมอก็ปล่อยตัวให้ผมกลับบ้าน
หม่าม๊าดีใจใหญ่
ถึงผมจะไม่ได้กินปลาดิบที่ผมอยากเพราะหมอยังให้ระวังเรื่องอาหาร แต่ข้าวต้มฝีมือหมวยก็อร่อยกว่าที่โรงพยาบาลอยู่ดี
ผมก็ไม่อิดออดที่จะกินหรอกครับ
ระหว่างพักฟื้น
เต๋าแวะมา(แย่งข้าวต้มผมกิน)ทุกวัน เจ้าตัวก็ยังทำงานหนักเหมือนเดิม เห็นเค้าต้องขับรถไกล
ตื่นแต่เช้ากลับมืดแล้วก็สงสาร พอบอกให้กลับไปนอนบ้านก็ไม่เอา
หม่าม๊าบ่นอุบอิบเรื่องที่ผมต้องมาพลอยตื่นเช้านอนดึกกับมันไปด้วย ก็มันห่วงนิ
อยากจะตื่นไปส่ง แล้วรอกินข้าวด้วยมันผิดตรงไหน หม่าม๊าไม่เข้าใจวัยรุ่นเลย “คนเค้ารักกัน”ก็ต้องร่วมทุกข์ร่วมสุขกันจริงไหมคับ
หุหุ เขิลจัง At loveๆๆๆ
พอหายดีเต๋าพาผมมาที่บ้านครับ
เห็นว่าแม่เต่ามาเยี่ยมหลาน(ชิโร่)เลยจะให้มาเป่ากระหม่อม
ผูกข้อมือเรียกขวัญให้ผมด้วย ไม่เชื่อแต่ก็อย่าลบหลู่นะครับของแบบนี้ ไหนๆก็มาเสียหน่อย ผมไม่ได้เห็นแก่รถด่วน
แหนมทอดที่แม่เต่าหอบมาหรอกนะ จริงจริ๊งงงง
“ต๋าววววว หิวแล้ว”
“คร้าบๆ แป๊บนึงนะ คุ้ยตู้เย็นก่อน
กินหนมรองท้องไปก่อนได้ไหม”
“ไม่เอา หิวข้าว ขอไวๆโด้ยยยย”
พยาธิผมฟื้นคืนชีพแล้วอัพเลเวลกันใช่ไหม
ถ้าจะหิวบ่อยขนาดนี้
“อะ จะกินไร เดี๋ยวเต๋าทำให้นะ”
“อยากกินราเม็งอ่ะ ไหนบอกหายแล้วจะพาไปกินทุกอย่างไง”
กวนประสาทแม่งเลยครับ หึๆ
“ได้ๆ “
“ห๋า!จริงดิ”
“งั้นเดี๋ยวชาไปหน้าบ้านทีนะ”
“ฮะ”
“แล้วเปิดประตู”
“ครับๆ”
“เดินไปตามทางเรื่อยๆ”
“อื้อ แล้ว............”
“พอถึงหน้าปากซอยก็โบกแท็กซี่”
“หื้อ”
“แล้วมึงบอกพี่เค้าไปดอนเมือง”
“ห๋า?”
“แล้วบินไปแดกที่ญี่ปุ่นเลยนะ”
“เหี้ย!”
“บ้านมีกับข้าวอีสานเสือกจะแดกอาหารญี่ปุ่น
เอาชายสี่หมี่เกี้ยวไปก่อนมะ”
“_วย!”
“อันนั้นน่ะ......... เดี๋ยวคืนนี้ให้กินแน่
จะยัดให้จุกเลยแม่ง”
“แง๊................”
“55555 โอ๋ๆ ไม่ร้องๆ
มาช่วยเต๋าเตรียมกับข้าวดีกว่ามา”
เต๋ายัดหนอดรถด่วนที่ทอดกรอบๆหอมๆใส่ปากผม
ถ้าไม่ติดว่าหนอนอร่อยนี่กูจะโวยวายมากเลยครับ
“กินหนอนน้อยไปก่อน หนอนตัวใหญ่ๆค่อยกินคืนนี้เนอะ”
เต๋าขยี้หัวผมจนยุ่งแล้วยิ้มทำหน้าอ่อนโยน......ซึ่งผมก็ได้แต่สงสัยว่าประโยคหื่นๆขนาดนี้
ออกจากจากใบหน้าอ่อนโยนราวเทพบุตรนั่นได้ยังไง ช่างขัดกันซะเหลือเกิน
ระหว่างที่เต๋าวุ่นวายทำนั่นเตรียมนี่ ผมก็ไม่ได้ทำอะไรหรอก
นอกจากยืนอยู่เฉยๆจกจานหนอนทอดไปพลางๆ ยิ่งกินก็ยิ่งเพลิน
พอหายหิวก็เริ่มอารมณ์ดีขึ้นมาแล้ว
“ชาครับ หั่นหอมให้เต๋าหน่อยสิ “
“ห๋า เอ่อ ได้ๆ”
เอ่ออออออ เค้าหั่นกันยังไงวะ สับๆหรือปล่าว ผมก็ลงมือสับเป็นหมูเลยครับทีนี้
“ปังๆๆๆๆ”
“เฮ้ยยย คชา ทำไมทำงั้นวะ พังหมดแล้ว”
“ก็...กูทำไม่เป็นนิ”
“แล้วทำไมไม่บอก จะได้สอน เฮ้อออ”
เบะปาก เรื่องแค่นี่ก็ต้องดุด้วย งุงิ
เต๋าโอบจากด้านหลังพร้อมกับจับมือทั้งสองข้างของผมไว้แล้ว
“เวลาซอยน่ะ เค้าทำกันอย่างงี้”
เต๋าขยับมือที่กุมข้อมือผมอยู่ช้าๆให้ซอยมีดลงบนต้นหอมสีเขียวสด
มืออีกด้านก็คอยกำกับให้คอยผมดันต้นหอมเข้าไปใต้คมมีด
ตอนแรกผมก็ตั้งใจเรียนดีอยู่หรอกจนกระทั้งรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นที่แนบต่ำลงมาบนแก้มของตัวเอง
“ต๋าวววว ทำอะไรอ่ะ”
“ขอหอมหน่อย”
“อะ เอาไป ต้นหอม”
“โว๊ะ ไม่เอาอันนี้สิ”
“อย่าเล่นสิเต๋า นี่จับมีดอยู่นะ อันตราย”
“อ้าวเหรอ นั่นสิเน๊อะ “
เฮ้อออ เอาใหม่ครับ เต๋ามันคงลืมว่าผมถนัดซ้าย
ผมเลยเปลี่ยนข้างจับมืดแล้วเริ่มตั้งใจซอยหอมใหม่ คนเราต้องฝึกฝนครับถึงจะประสบความสำเร็จ..........
ทำไปได้สักพัก ก็มีแมวหง่าวตัวเขื่องมานัวเนียข้างหลังอีกละ
“ต๋าวววว ทำเป็นแล้ว ไม่ต้องมาสอนแล้ว”
“ไม่ได้หรอก กลัวมืดบาดมือชาอ่ะ ต้องเฝ้าไว้”
“เฝ้าก็เฝ้าไกลๆสิ ทำไมต้องมายืนชิดขนาดนี้ด้วย
จะแตะอั๋งกูเหรอ”
“โธ่ชา
มึงน่ะใจง่ายยอมให้กูแต๊ะอั๋งตั้งแต่รู้จักกันอาทิตย์แรกแล้ว ทีตอนนี้จะมาทำหวงตัว”
“ตอนนั้นกูยังเด็กน้อยไร้เดียงสา
มึงแม่งล่อลวงกู งื้อออ เต๋าอ๊า อย่าเซ่ อื้อออ”
โว้ะ ละกูจะทำเสียงกระเส่าทำไมวะ ดูดิ
ไอ้เต๋าได้ใจเอาหนอนยักษ์มาถูผมใหญ่แล้วโอ้ยยย
“นี่เวลาซอยต้องซอยอย่างงี้
แรกๆก็ซอยช้าๆพอเข้าจังหวะก็ซอยถี่ๆ ซอยหอมๆสลับกันไป”
เอ่อ คุณเศรฐพงศ์ครับ นี่เรายังพูดถึงซอยต้นหอมกันอยู่หรือปล่าวครับ
ถ้าสะโพกคุณจะซอยถี่ใส่ตูดผมขนาดนี้ แล้วแทนที่ผมจะห้าม
ทำไมถึงต้องมาขาอ่อนตอนนี้ด้วยฟะ ไม่ต้องหอม ไม่ต้องไซ้กูมากก็ได้
นี่มือสั่นจะจับมืดไม่อยู่แล้ว
“เต๋า กับข้าวเสร็จหรือยังลูก”
“แว๊กกกกก”
เย็ดเข้! เเม่เต่ามา! พวกผมนี่รีบดีดออกจากกันเลยครับ
“จะเสร็จแล้วครับแม่ นี่รอคชาซอยหอมแป๊บนึง”
“เหรอครับ อ้าว แล้วคชาหน้าแดงเป็นอะไรลูก
ไข้กลับหรือปล่าว”
“เอ่อออ คือ”
“ แล้วทำไมจมูกบาน หรือหายใจไม่ถนัด
นี่เป็นหอบหืดเหรอลูก”
ติดหอบหื่นมาจากลูกชายตัวดีของแม่เต่านะสิ
“สงสัยซอยหอมเยอะไปอ่ะแม่ ปะๆกินข้าว”
ไอ้ตัวแสบยืนหัวเราะคิกคัก ทิ้งให้ผมยืนเกร็งจนเยี่ยวเล็ดปั้นหน้ากับแม่เต่า
แล้วหนีไปตั้งสำรับหน้าตาเฉย เดี๋ยวเถอะมึง เดี๋ยวก่อน
หลังจากกินข้าวกันอิ่มหนำดีแล้ว
(เต๋ากินเยอะมากครับ อิ่มเป็นคนสุดท้ายเลยมันหน่ะ ผมก็นั่งรอไปดิ
พอมันเห็นผมอิ่มแล้วก็ใช้ผมใหญ่ เดี๋ยวก็เติมน้ำ เดี๋ยวก็ตักข้าว
ผมก็ก้มหน้าก้มตาทำไปอะครับ ไม่กล้าขัดใจ สงสารตัวเองจัง
เป็นขี้ข้ามันมาตั้งแต่สมัยบ้านแม็ค ตอนนี้ก็ยังเหมือนเดิมไม่มีผิด
“เต๋าทำไมใช้น้องละลูก
พาเค้ามาบ้านก็อย่าให้เค้าลำบากสิ”
“ใช่แล้วครับแม่ มันใช้งานผมสารพัดเลยครับ”
แถมยังโดนปู้ยี้ปูยำซะเละ
โต๊ะกินข้าวที่แม่นั่งอยู่น่ะ มันก็.............คืออยากจะฟ้องนะ แต่ไม่เอาดีกว่า
“โอ้ยแม่ อย่าไปเชื่อคชามัน
ปกติผมนี่แหละบริการมันสารพัด ทั้งกับข้าวกับปลา นวดเนื้อนวดตัว อาบน้ำควักล้างทำความสะอาด
อุ๊ปส์”
“หา เมื่อกี้เต๋าว่าไงนะลูก?”
“อ๋อ ปล่าวครับ ไม่มีอะไรครับ
ไหนแม่บอกจะเรียกขวัญให้คชาไง”
“เอ่อใช่”
แม่เต่าคนดีรีบกระวีกระวาดลุกขึ้นไปหยิบ
ฝ้ายมัดมือกับของสาระพัดสิ่งที่ผมก็ไม่ค่อยรู้หรอกครับ
มาทำพิธีเรียกขวัญผูกฝ้ายมัดมือให้ ผมก็น้อมรับพรดังกล่าวนั้นไว้โดยดี
เต๋าบอกว่าแม่ไหว้พระสวดมนต์ให้ทุกครั้งเลยเวลารู้ว่าผมไม่สบาย
เพราะลูกๆบ้านแม่แข็งแรงราวกับโคถึก โดยเฉพาะไอ้แสบที่นั่งยิ้มแป้นข้างๆผมเนี่ย
แม่เต่าเลยสวดมนต์ให้ผมแทน คงอดเป็นห่วงผมไม่ได้กระมัง
พอเสร็จเรียบร้อย ผมก้มลงกราบบนตักของคุณแม่ใจดี
แม่เต่าดึงผมขึ้นไปกอดไปหอมแล้วก็ให้โอวาท
“รักษาศีลห้า ทำจิตใจให้บริสุทธิ์นะลูก ความดีจะเป็นเกราะป้องกันตัว
เจ้ากรรมนายเวรเค้าจะได้ไม่ราวีลูกมาก ให้ผ่อนหนักเป็นเบา นะลูกนะ “
ครับ แม่ครับ ผมจะเป็นคนดี อยู่ศีลในธรรม สาธุ๊
ตกกลางคืนผมหนีขึ้นไปนอนก่อน เพลียๆหน่ะครับ
ยังไม่ค่อยหายดี แล้วก็อยากเปิดโอกาศพวกเค้าได้พูดคุยตามประสาครอบครัวอีกด้วย
คือจริงๆตอนแรกก็อยากจะขอตัวกลับก่อน แต่แม่เต่าก็คะยั้นคะยอให้อยู่ค้างด้วยเลย
พรุ่งนี้จะได้ใส่บาตรด้วยกัน เพราะไหนๆผมก็บวชเรียนมา ดูจะรู้เรื่องและเป็นงาน
ไปทางสายธรรมเป็นเพื่อนกับแม่เต่าได้ ไม่เหมือนเต๋า นั่นไม่รู้เรื่องอะไรกะเค้าเลย
ชิ
“แม่นะอยากให้เต๋าบวช
จะได้เกาะชายผ้าเหลืองขึ้นสวรรค์กะเค้าบ้าง”
“ก็ได้นะแม่ เดี๋ยวให้คชาไปถือหมอน บวชเสร็จก็เบียดเลยเนอะแม่เนอะ”
ครับหัวเราะกันครื้นเครงใหญ่เลยครับ
ส่วนผมได้แต่ยิ้มแห้งๆเพราะรู้ว่าไอ้เต๋ามันไม่ได้ล้อเล่น
ระหว่างที่ผมกำลังเคลิ้มหลับฝันถึงฝูงกองทัพนารูโตะอยู่นั้น
อยู่ๆก็รู้สึกว่ามีแมวยักษ์ปวนเปี้ยนอยู่ข้างหลังตัวเอง
“อื้มมมม ต๋าวววว”
“คร้าบบบบบ ทำให้ตื่นเหรอ โทดๆ”
จะไม่ให้ตื่นได้ยังไงไหว
อยู่ๆก็เข้ามารัดซะแน่นเป็นงูแล้วเนี่ย หื๋อออ เหม็นเหล้าหึ่งเลย
“เต๋า ดื่มมาเหรอ เมาก็นอนดีๆ เช็ดหน้าหน่อยไหม
เดี๋ยวไปเอามาให้”
“อื้ออ ไม่เอาอ่ะ อยากกอดชา”
“อยู่บ้านยังกินซะเมาเลย เต๋าเอ้ย เต๋าเอ๋อ”
“อืมมมมม”
“นอนดีๆนะ กูดไนท์ครับ”
ผมปล่อยให้เต๋ากกกอดผมจากด้านหลัง
คิดว่าประเดี๋ยวคงจะเมาหลับแหละ......................ซะที่ไหน
พ่อคุณพ่อทูนหัวมือรุ่มร่ามเป็นปลาหมึกเลยครับ
“ต๋าววววว เต๋านอนนะครับ เมาแล้ว”
“คิดถึงชาอ่ะ”
คิดถึงพ่อง อยู่ด้วยกันแทบจะทุกวันละ
แล้วมือนี่ ตอนแรกก็แค่ลูบพูงอยู่ดีๆ ทำไมตอนนี้เลี้อยขึ้นมาบี้หัวกูนมเฉย
“เต๋า อย่าบี้สิ โอ้ยยยยย แล้วจะเบียดๆบดๆทำไมอ่ะ
วุ๊ยยย”
“ชา.........”
“อึก จะ... จ๋า”
อยาก..........อ่ะ
อยาก มึงอยากอะไรครับ อยากกิน อยากนอน
อยากไปเที่ยวดรีมเวิลด์ หรือ....... เดี๋ยวๆแล้วมึงล้วงกางเกงกูทำไมเนี่ย
“ขอ...หน่อยนะ”
“ฮื้อเต๋า อย่า ชาป่วยอยู่นะ ฮื้ออออ”
“นิดเดียว นะๆ แค่ไถๆนิดเดียว
ไม่ใส่เข้าไปข้างในหรอก”
ครับ กูน่าจะระลึกได้ว่าไอ้เต๋าจะหื่นมากยามเมา
ละทำอย่างกะว่าผมจะห้ามมันได้งั้นล่ะ ก็มันรัดผมซะแน่นเลยอ่ะ
เต๋าเถือกไสท่อนเนื้อแข็งระหว่างก้อนเนื้อกลมทั้งสองของผม
น้ำลื่นใสซึมจากส่วนหัวของเจ้างูยักษ์ปาดเปื้อนไปทั่ว เต๋าพยายามจะยัดเยียดตัวเองเข้ามาระกว่างขาหนีบของผมให้ได้....ซึ่งมันจะได้ไหมละครับ
มันหันไปเปิดลิ้นชักหาหล่อลื่นคู่ชีพด้วยความหงุดหงิด (สปีดไม่ตกเลย
ไหนว่าเมา)
“ตะ...เต๋า เดี๋ยว ไหนบอกไม่ใส่”
“ก็ไม่ได้ใส่ จริงๆ แค่ให้มันลื่นๆอะ นะๆ”
กลิ่นหวานๆของสตรอเบอรี่ฉุนกึกจนผมวิงเวียน
แต่ก็ทำให้เคลิ้บเคลิ้มและกระตุ้นอารมณ์อย่างน่าประหลาด มันวางยาผมแน่ๆ
ทุกครั้งที่ได้กลิ่นนี้ผมก็เผลอมีอารมณ์ร่วมด้วยทุกทีสิหน่า
ก็มันทำให้ผมนึกถึงครั้งแรกของเรา ตอนที่มันหลอกผมมาเคลมที่บ้าน
ยังเจ็บใจไม่หายเลยแม่ง
ท่อนเนื้อแข็งที่รุ่มร้อนไถลลื่นเข้ามาระหว่างกลีบก้นของผมเสียดสีปากทางสีชมพูยับย่นที่ค่อยๆเผยออ้าชวนให้เจ้างูยักษ์เข้ามาเที่ยวเล่น
โดยที่ไม่ฟังเสียงเจ้าของร่างกายเลย เต๋ากอบกุมสะโพกของผมให้อยู่กับที่ก่อนจะเสือกไสกระแทกเข้าออกช้าๆแต่หนักหน่วง
ปลายยอดแข็งกระแทกไถถุงเนื้ออ่อนเบาๆส่งความวาบหวิวจนลูกกระพรวนน้อยๆทั้งสองของผมหดรัดเคร็งเคลื่อนคล้อยไปมา
“ชา ชาจ๋า ขอเข้าไปนิดนึงได้ไหม ไม่ขยับหรอก
ขอเข้าไปเฉยๆนะๆ”
“มะ อึก ไม่เอา ชาป่วยอยู่นะ อ๊า...”
เต๋าแกล้งกอบกุมเจ้าช้างน้อยของผมไว้ในอุ้งมือเป็นตัวประกัน
เข้าใจคำว่าจะบีบก็ตายจะคลายก็รอดเลยครับ เต๋าบี้ส่วนปลายที่อ่อนไหวของผมไปมาระหว่างนิ้วโป้งกับนิ้วชี้
เสียวชะมัด แต่มันไม่เสร็จ ไอ้เต๋าแกล้งผมอ่ะ ฮื้ออออ
ยิ่งเต๋าเพิ่มแรงเร่งความเร็วในการเคลื่อนไหว
ความคลุคละของท่อนเนื้อก็ยิ่งเสียสีปากทางอันอ่อนไหวของผมมากเท่านั้น บางจังหวะเต๋าพลาดเผลอส่งลำเนื้อยักษ์ให้เลื้อยเข้าถ่พอให้ผมตกใจเล่นแล้วก็ถอนออก
ผมก็ตายสิครับแบบนี้
“ขอเข้าไปหน่อยนะครับ น๊าๆๆนะ”
“กะ.. ก็ได้”
เชร็ดดดด กูตอบอะไรออกไปวะเฮ้ย
เต๋าหัวเราะหึ
ไม่เต้องหันไปดูก็รู้ว่าไอ้คนที่นอนซ้อนผมอยู่ข้างหลังจะทำหน้าแบบไหน
คือผลสุดท้ายผมก็ยอมมันทุกรอบไปสิหน่า มันเกี่ยวข้อพับดันหัวเข่าของผมให้ไถลเลื่อนขึ้นไปตามผ้าปูที่นอนสีสดก่อนจะสอดใส่สิ่งแปลกปลอมที่แสนจะคุ้นเคยเข้ามาในตัวผม
“อะ อ๊า”
“ซื้ดดด ชา แน่นมาก”
“อื้อ เต๋าอย่า.....”
“อย่าอะไรครับ”
มึงแกล้งกดจุดกระสันซ้ำๆแล้วหมุนวนครูดผนังอ่อนรอบๆนี่คืออะไรฟะ
อ๋อยยยย หม่าม๊า ชาไม่ไหวแล้ว
“ข้างในของชาอุ๊นอุ่น นุ่มด้วย ฟ๊อด”
เต๋ากดจมูกหอมแก้มผมแรงแรงแล้วงับใบหูบาง
ส่วนสะโพกข้างล่างยังคงบดหมุนวนไปมาแล้วกดย้ำๆอยู่ที่จุดเดิม.....จุดที่มันก็รู้ทั้งรู้ว่าจะทำให้ผมสุขจนแทบขาดใจ
“ตะ เต๋า เต๋าคร้าบบบบ”
“ครับ ว่าไงครับ”
“............”
“เอ้า พูดสิครับ”
มือเต๋าจะบี้หน้าอกกับน้องผมเล่นสลับไปมาก็เหอะ
โดนทุกทางเลยกูวันนี้
“T_T ซอยที ไม่ไหวแล้ว ซื๊ดดดด”
จะเหลือเหรอ มันนี่รีบเตรียมเขียงเลยครับ
หลังจากที่เต๋าทำการซอยหอมมาราธอน
กว่าจะหนำใจพ่อคุณก็ฟ้าสางพอดี หอมแม่งหมดสวยแล้วมั้งครับ
“พี่คชา ทำอย่างงื้อกะน้องเต๋าได้ยังไง”
“หื๊อ?”
“นี่พ่อแม่ผมนอนอยู่ห้องข้างๆแท้ๆ
ยังจะมาทำอย่างงี้กับผมอีก”
“ห๊า?”
“นี่ผิดศีลนะเนี่ย ผิดลูกผิดเมียผู้อื่น
ป่วยอีกแน่ๆ เจ้ากรรมนายเวรงับไม่ปล่อยหรอก”
“เห๋?”
“อย่างงี้ต้องทำพิธีแก้กรรมด้วยการซอยหอมซ้ำ
ผ่อนหนักจะได้เป็นเบาเน๊อะ”
“T_T”
“มาเร็ว เอาเขียงขาวๆกลมๆมาวางแบตรงนี้
ซอยหอมๆ”
“TT___TT”
กูว่ามึงนี่แหละครับเจ้ากรรมนายเวรกูน่ะ
ฮื้อ....
No comments:
Post a Comment